ความน่าสนใจของกองทุน  
KT-EURO

กองทุนเปิดเคแทม
ยูโรเปียน อิควิตี้ ฟันด์

Invesco Continental European 
Small Cap Equity Fund
กองทุนรวมหลัก

 

ตราสารทุนของ
บริษัทขนาดเล็ก
ในทวีปยุโรป
(ไม่รวมสหราชอาณาจักร)

Invesco 2021 Outlook

 

กลยุทธ์และปรัชญาด้านการลงทุนของกองทุนนี้

ปรัชญาด้านการลงทุน, หัวใจหลักของนักลงทุนของเรา

เราลงทุนในบริษัทขนาดเล็กในภูมิภาคยุโรปโดยใช้กรอบโครงสร้าง 3 ประการหลัก

 


 

 


 

 

ข้อเสนอด้านการลงทุน

การผนวกเอาคุณสมบัติต่างๆ ของหุ้นขนาดเล็กและหุ้นขนาดกลาง
เข้ากับกระบวนการลงทุนที่ไม่เหมือนใคร
 


 

พันธกิจของเรา คือ การสร้างพอร์ตการลงทุนของหุ้นขนาดเล็กและหุ้นขนาดกลาง
ในภูมิภาคยุโรปที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลา 3 ปี
ซึ่งประสิทธิภาพดังกล่าวนี้เกิดขึ้นจากการเลือกหุ้นเป็นหลักมากกว่าอิทธิพลจากปัจจัยเสี่ยง

 

 

กระบวนการด้านการลงทุน

การสร้างพอร์ตการลงทุนและการปรับประสิทธิภาพด้านความเสี่ยงให้ดีอย่างต่อเนื่อง

 


 

 


 

 

 

 

ในส่วนที่นอกเหนือจากการวิเคราะห์ทางการเงินของบริษัทที่ลงทุน
เราจะทำความเข้าใจวัฒนธรรมองค์กรและแรงจูงใจของบริษัทนั้นๆ
เพื่อช่วยให้เราสามารถประเมินหลักทรัพย์นั้นได้ดียิ่งขึ้น
 


 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

มีการศึกษาข้อมูลทางการเงินและ ESG ควบคู่กันไป
โดยเน้นวิเคราะห์ความเสี่ยงเป็นหลัก

 


 

ผลกระทบที่บริษัทต่างๆ มีต่อสิ่งแวดล้อมนั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
การวิเคราะห์ด้าน ESG และวิเคราะห์ผลกระทบจะช่วยให้เราประเมินความเสี่ยงและโอกาสได้ดียิ่งขึ้น

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

การทำความเข้าใจในมูลค่าที่บริษัท
ได้มอบไว้ให้แก่สภาพแวดล้อมรอบตัวของตนนั้น
จะช่วยให้เราเข้าใจถึงความยั่งยืนของการสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น

 

 

การสร้างมูลค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดนั้นถือเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญประการหนึ่ง
ที่ทำให้เกิดผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว (แบ่งปันผลประโยชน์ให้แก่ทุกคน)

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

กรณีศึกษาเกี่ยวกับ ESG/ผลกระทบของบริษัท Signify

ESG และผลกระทบถือเป็นส่วนประกอบหลักของศักยภาพของผลิตภัณฑ์ของบริษัท Signify
บริษัท Signify เป็นผู้ผลิตระบบไฟ LED และ Connected LED โดยบริษัทนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม
บริษัท Royal Philips แล้วได้แยกตัวออกมาเป็นบริษัทอิสระในปี พ.ศ. 2559
ความยั่งยืนเป็นองค์ประกอบหลักประการหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กรของบริษัทนี้


 

 

  • การวิเคราะห์ ESG และผลกระทบถือเป็นส่วนสำคัญของการวิเคราะห์ด้านความมั่นคงของเรา
  • เราเห็นผลกระทบที่บริษัท Signify มีอยู่ ที่มาจากความแตกต่างของบริษัทซึ่งเป็นคุณสมบัติที่กระบวนการลงทุนของเราให้ความสำคัญ
  • ทั้งสองปัจจัยร่วมกันช่วยกำหนดเป้าหมายราคาและความเสี่ยงด้านขาลงของเรา

 

 

 

  เหตุผลที่ควรลงทุน  


 

  • หุ้นที่เราซื้อ : บริษัทต่างๆ ที่มีความมั่นคง มีความแตกต่างจากกระแสทั่วไป มีมูลค่ามากกว่าที่เห็นเมื่อคำนึงถึงศักยภาพธุรกิจในอีก 3 ปีข้างหน้า
     
  • พอร์ตการลงทุนที่เราสร้างขึ้น : มีความแน่วแน่สูงโดยคำนึงถึงความเสี่ยงของแต่ละหุ้นพร้อมกับหลีกเลี่ยงการเผชิญกับปัจจัยที่ไม่พึงประสงค์

 


 

เรามุ่งมั่นที่จะสร้างพอร์ตการลงทุนของหุ้นขนาดเล็กและหุ้นขนาดกลางในภูมิภาคยุโรปที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลา 3 ปี ซึ่งประสิทธิภาพดังกล่าวนี้เกิดขึ้นจากการเลือกหุ้นเป็นหลักมากกว่าอิทธิพลจากปัจจัยเสี่ยง

 


 

  • การจัดการกองทุนเชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาวอย่างแท้จริง พร้อมกับสร้างผลการดำเนินงานกองทุนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
     
  • แนวทางการลงทุนที่แข็งแกร่งโดยเน้นการประเมินมูลค่าพื้นฐาน
     
  • ทุกครั้งที่ซื้อหุ้นเราให้ความสำคัญอย่างมากกับเรื่องของราคา อาจทำให้มองไปว่ากองทุนนี้ค่อนข้างเป็น Value fund
     
  • แต่เปิดใจกว้าง : ความคลาดเคลื่อนของมูลค่าหุ้นอาจปรากฏอยู่ในภาคส่วนไหนก็ได้
     
  • การเลือกหุ้นแบบ “รายตัว” ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์แบบ “มหภาค” ถ้าอยากได้ผลตอบแทนที่ดีในภูมิภาคยุโรปนั้น ท่านจะต้องทำทั้งสองอย่าง
     
  • บริษัทขนาดเล็กไม่ค่อยได้รับความสนใจจากนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์
     
  • การลงทุนในบริษัทขนาดเล็กจำเป็นต้องให้ผู้จัดการกองทุนทำการวิเคราะห์เพิ่มเติม
     
  • แง่ดีก็คือ หุ้นขนาดเล็กไม่ถูกจ้องมองอยู่ตลอดเวลา (Less Efficient Market) ทำให้สามารถคว้าโอกาสทำกำไร (Alpha) 

 


 

นำความรู้ระดับภูมิภาคเพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนที่มั่นคง

 


 

 

การเคลื่อนสู่โลกดิจิตอล :“เราต้องผลักดันด้านการลงทุนและการปฏิรูป และเราต้องสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจของเราโดยเน้นไปที่การจัดลำดับความสำคัญให้แก่สิ่งต่างๆ ของเรา เช่น European Green Deal รวมไปถึงการปรับสิ่งต่างๆ ให้เป็นดิจิตอลและการสร้างความยืดหยุ่น” - Von der Leyen, 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว : “European Green Deal ในฐานะกลยุทธ์ด้านการฟื้นตัวของสหภาพยุโรป : โครงการปรับปรุงอาคารและโครงสร้างพื้นฐานของเราครั้งใหญ่ ตลอดจนการปรับปรุงระบบเศรษฐกิจให้มีหมุนเวียนการใช้ทรัพยากรมากขึ้นและสร้างงานในท้องถิ่น”

นวัตกรรม : “Margrethe Vestager รองประธานบริหาร ได้กล่าวไว้ว่า“ วิกฤตโคโรนาไวรัสได้แสดงให้เห็นว่าการที่จะต้องเชื่อมต่อคนและธุรกิจต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันและทำให้พวกเขาสามารถมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันผ่านระบบออนไลน์ได้นั้นมีความสำคัญมากเพียงใด”

ความยั่งยืนและการจัดหมวดหมู่ : ความยั่งยืนในหุ้นขนาดเล็กและหุ้นขนาดกลางโดยนโยบายด้านการจัดหมวดหมู่ของภูมิภาคยุโรปมีวัตถุประสงค์เพื่อลดต้นทุนของตราสารทุนสำหรับเทคโนโลยีที่สะอาดที่สุดและกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

 


 

 

การลงทุนในอนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น

  • ชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ : การสิ้นสุดของกฎของมัวร์ (Moore’s Law) และตลาดสินค้าสำเร็จรูปที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง (นอกจากคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและสมาร์ทโฟน รวมไปถึงระบบ 5G, ยานยนต์, IOT) ได้ผลักดันให้วัฏจักรของภาคส่วนนี้เบาลงและทำให้มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นใน นวัตกรรมของวัสดุและวิธีการบรรจุหีบห่อแบบใหม่ๆ 
     
  • การเข้าสู่โลกดิจิตอลของบริษัทในภูมิภาคยุโรป : บริษัทขนาดเล็กในภูมิภาคยุโรปได้ปรับตัวค่อนข้างช้าในระยะที่ผ่านมา สถานการณ์ Covid-19 ได้กระตุ้นสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และสถานประกอบการขนาดเล็กอย่างมาก 
     
  • เทคโนโลยีด้านสุขภาพ : แม้ว่าระบบการดูแลสุขภาพโดยรวมจะทำงานได้ดีในภูมิภาคยุโรปในช่วงสถานการณ์ Covid-19 ก็ตาม แต่ผู้กำหนดนโยบายของภูมิภาคยุโรปก็ได้ตระหนักถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของข้อมูลที่แม่นยำและระบบการให้บริการด้านการดูแลสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ 
     
  • “ภูมิภาคยุโรปเป็นผู้นำ” ในด้านเทคโนโลยี? : ภูมิภาคยุโรปได้ข้อสรุปว่าตนไม่สามารถพึ่งพาผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกาหรือจีน สำหรับข้อมูลและกระบวนการต่างๆ ที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ ใช่หรือไม่? 
     
  • การก้าวสู่โลกดิจิตอล เป็นเรื่องที่สามารถแยกย่อยเป็นกลยุทธ์การลงทุนอีกหลายรูปแบบ : สิ่งที่แตกต่างไปจากสหรัฐอเมริกาและจีน ก็คือ เทคโนโลยีของภูมิภาคยุโรปโดยส่วนใหญ่นั้นจะเกี่ยวข้องกับหุ้นขนาดเล็ก 
     

 

การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว

ข้อตกลง EU Green Deal เป็นตัวเปลี่ยนเกมอย่างแท้จริง

 

การลงทุนด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและด้านสิ่งแวดล้อมในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน : "การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศถือเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาคยุโรปและโลก" การที่จะเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ให้ได้นั้น ภูมิภาคยุโรปต้องมีกลยุทธ์ด้านการเติบโตใหม่ที่เข้ามาเปลี่ยนสหภาพยุโรปไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่ทันสมัย ประหยัดทรัพยากร และสามารถแข่งขันได้โดยที่ไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยสิ้นเชิงภายในปี พ.ศ. 2593

 

  • พลังงาน – พลังงานที่สะอาด ราคาไม่แพง และปลอดภัย : ต้นทุนด้านพลังงานทดแทนได้ลดลงอย่างมาก โดยมีความเกี่ยวข้องกับระบบความร้อนในหลายประเทศ และคาดว่าจะยิ่งลดลงไปอีกซึ่งลม พลังงานแสงอาทิตย์ แบตเตอรี่ระดับกิจการ และไฮโดรเจนสีเขียว ถือเป็นระบบที่ดี 
  • การขนส่ง - เร่งให้เกิดการเปลี่ยนไปสู่ระบบการเคลื่อนที่ที่ยั่งยืนและชาญฉลาด : เปลี่ยนไปใช้แหล่งเชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำ (เช่น ยานพาหนะไฟฟ้า เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน) 
  • โครงสร้างพื้นฐาน - การสร้างและการปรับปรุงด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานและทรัพยากร : เปลี่ยนไปใช้ระบบทำความร้อน/ระบบทำความเย็นคาร์บอนต่ำ (เช่น ความร้อนจากแสงอาทิตย์ไฮโดรเจน) และปรับปรุงประสิทธิภาพด้านทรัพยากรเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ให้แสงสว่าง 

ที่มา : Invesco ข้อมูล ณ วันที่ 31 ส.ค. 63

 


 

ได้มีการนำปัจจัยเอื้อที่ทำให้เกิดความสำเร็จ (Enabler) มาใช้หลายปีมาแล้ว ในปัจจุบันก็ถึงเวลาแล้วที่ผู้ประกอบการในภูมิภาคยุโรปจะต้องขับเคลื่อนให้เกิดคลื่นลูกใหม่ของบริษัทชั้นนำของโลก

  • เป็นมากกว่าแค่เทคโนโลยีและเทคโนโลยีสีเขียว : เราเห็นนวัตกรรมในภูมิภาคยุโรปกำลังเกิดการเติบโตในหลายๆ ด้าน เช่น การดูแลรักษาสุขภาพ อุตสาหกรรม โครงสร้างพื้นฐาน และด้านอื่นๆ เช่น อาหาร 
     
  • ปริมาณการเสนอขายหุ้นกำลังเพิ่มขึ้น : เรากำลังเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของกิจกรรมการเสนอขายหุ้นที่ถูกผลักดันโดยบริษัทขนาดเล็กที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วจากหลากหลายภาคส่วน 
     
  • ปัจจัยเอื้อที่ทำให้เกิดความสำเร็จ (Enabler) ที่ได้ถูกนำมาใช้เมื่อหลายปีก่อนนั้น ในที่สุดตอนนี้ก็กำลังแสดงให้เห็นผลลัพธ์ออกมา : สถาบันการศึกษาที่เข้มแข็ง ฐานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลที่ให้การสนับสนุนในภูมิภาคยุโรป ซึ่งได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในช่วง หลังวิกฤตการเงินนั้น กำลังเริ่มที่จะทำให้เกิดเป็นผลลัพธ์ออกมาแล้วในตอนนี้ 

 

 

 

    รู้จัก Invesco    

 

บริษัท Invesco ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2478 และปัจจุบันมีการดำเนินงานในกว่า 25 ประเทศ โดยในปัจจุบัน บริษัทนี้ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กภายใต้สัญลักษณ์ IVZ นอกจากนี้ บริษัท Invesco อยู่ในภูมิภาคนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 และถือเป็นหนึ่งในบริษัทด้านการลงทุนที่มีประสบการณ์มากที่สุด ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีสำนักงานมากกว่า 13 แห่งใน 8 ตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

 

ที่มา : Invesco ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 63

 

ไฮไลท์สำคัญของการดำเนินธุรกิจของเรา
ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประกอบด้วย :

  • ประสบการณ์ 50 ปีในด้านการลงทุนในภูมิเอเชียแปซิฟิกโดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน 165 คน
     
  • เป็นผู้บุกเบิกด้านการลงทุนตราสารทุนจีนโดยมีประสบการณ์ประมาณ 25 ปีในการบริหารจัดการตราสารทุนจีนในตลาดต่างประเทศและมีประสบการณ์กว่า 10 ปีในการบริหารจัดการตราสารทุนจีนในตลาดในประเทศ (ภายใต้โครงการ QFII)
     
  • เป็นรายแรกๆ ที่เริ่มต้นในฮ่องกงในช่วงปีทศวรรษที่ 70 (ค.ศ. 1970 – 1979) และเป็นบริษัทด้านการบริหารจัดการกองทุนที่เป็นการร่วมทุนระหว่างประเทศจีนและประเทศสหรัฐอเมริกาแห่งแรกในปี พ.ศ. 2546 ในประเทศจีน
     
  • เป็นหนึ่งในบริษัทด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ระดับโลกรายแรกๆ เพียงไม่กี่บริษัทที่มีการตั้งบริษัทที่เป็นของต่างประเทศโดยสมบูรณ์ขึ้นในประเทศจีนเพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านการลงทุน
     
  • กิจการร่วมค้าที่สำคัญสองบริษัทในประเทศจีน (ร่วมงานกับ China Huaneng Group) ได้แก่ :
    - บริษัท Invesco Great Wall – ก่อตั้งขึ้นเพื่อมุ่งเน้นไปที่ตลาดกองทุนรวมในประเทศจีน
    - บริษัท Huaneng Invesco WLR – มุ่งเน้นไปที่ตลาดตราสารทุนนอกตลาด
     
  • เข้าไปมีบทบาทและตัวตนที่สำคัญในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526
     
  • ขยายบทบาท ตัวตน และความสามารถไปในประเทศอินเดียภายใต้บริษัท Invesco Asset Management (India) Private Limited ซึ่งเป็นหนึ่งใน 16 บริษัทด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์แนวหน้าของประเทศอินเดีย โดยมีมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทรวมอยู่ที่ 5.40 พันล้านเหรียญสหรัฐ
     
  • มีบทบาทและตัวตนที่โดดเด่นในประเทศออสเตรเลีย สิงคโปร์ และเกาหลีใต้

 

 

 

เป้าหมายของเรา คือ การส่งมอบประสบการณ์
ด้านการลงทุนที่จะช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตที่สุขมากขึ้น

เราบริหารจัดการสินทรัพย์มูลค่าราว 1.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก 
และตั้งถิ่นฐานอยู่ในตลาดทุนมากกว่า 25 แห่ง

 

 


 

 

การผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของบุคลากร 
ความสามารถ และขนาด

บริษัท Invesco นำเสนอวิธีการที่มีความหลากหลายทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์และรูปแบบการลงทุน ทำให้ลูกค้าของเราสามารถเลือกในสิ่งที่ตนต้องการและสามารถกระจายความเสี่ยงให้แก่การลงทุนของตนได้ นอกจากนี้ ยังได้มีการปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับตลาดที่เราเข้าไปดำเนินการ รวมทั้งทีมงานด้านการลงทุนของเรายังได้ปฏิบัติตามกระบวนการด้านการลงทุนที่เป็นระบบและได้รับการพิสูจน์ยืนยันแล้วว่าเป็นกระบวนการที่มีประสิทธิภาพโดยเน้นให้ความสำคัญในการควบคุมความเสี่ยง

เครือข่ายทั่วโลก

เข้าถึงเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนทั่วโลก

ความหลากหลาย

สามารถให้บริการการลงทุนในหลายประเภททรัพย์สินและ
หลายรูปแบบ

ความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ

เป็นบริษัทอิสระที่มีวัฒนธรรมองค์กรเน้นไปที่ลูกค้าและ
การลงทุนเป็นหัวใจสำคัญ

 

ทำไมจึงควรลงทุนกับเรา?

บริษัท Invesco อยู่ในภูมิภาคนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 และถือเป็นหนึ่งในบริษัทจัดการลงทุนที่มีประสบการณ์มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เราครอบคลุมพื้นที่ให้บริการที่กว้างใหญ่ โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ในหลายประเทศ ทั้ง ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง อินเดีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไต้หวันนอกจากนี้ บริษัท Invesco ยังมีการร่วมทุนกับบริษัทในประเทศจีนเพื่อดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อInvesco Great Wall อีกด้วย

 โครงสร้างกองทุนเปิดเคแทม
อินเดีย อิควิตี้ ฟันด์

กองทุนเปิดเคแทม
ยูโรเปียน อิควิตี้ ฟันด์

Invesco Continental European 
Small Cap Equity Fund

กองทุนรวมหลัก

 

ตราสารทุนของ บริษัทขนาดเล็ก ในทวีปยุโรป (ไม่รวมสหราชอาณาจักร)

 

นโยบายลงทุน

KT-EURO

กองทุนเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco Continental European Small Cap Equity Fund (Master Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (Retail Fund)เพียงกองเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม

กองทุนรวมหลัก

กองทุนรวมหลักเน้นสร้างผลตอบแทนในระยะยาวจากการลงทุนในตราสารทุนของบริษัทขนาดเล็กในทวีปยุโรป (ไม่รวมสหราชอาณาจักร) ที่ปรึกษาการลงทุนจะเน้นตราสารทุนและตราสารที่เกี่ยวข้องของกับตราสารทุนของบริษัทขนาดเล็กในตลาดยุโรป (รวมถึงใบสำคัญแสดงสิทธิและหลักทรัพย์แปลงสภาพ โดยต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน) ประเทศในทวีปยุโรปนั้นรวมถึงประเทศในกลุ่ม EU สวิตเซอร์แลนด์ สแกนดีนีเวีย บัลแกเรีย โรมาเนีย โครเอเชีย ตุรกี และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช

 

 

ประเภทกองทุน

กองทุนรวมตราสารทุน, กองทุนรวมหน่วยลงทุนประเภท Feeder Fund

ระดับความเสี่ยงกองทุน

6

กองทุนรวมหลัก

Invesco Continental European Small Cap Equity Fund

ISIN (กองทุนรวมหลัก)

LU1775962050

บริษัทจัดการ (กองทุนรวมหลัก)

Invesco Management S.A.

สกุลเงิน (กองทุนรวมหลัก)

EUR

 

รายละเอียดข้อมูลกองทุนเพิ่มเติม คลิก

 

กองทุนนี้มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้าเงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน


กองทุนรวมนี้เหมาะกับใคร?


  • ผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศรวมถึงความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

  • ผู้ลงทุนที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนรวมไปลงทุน ซึ่งอาจจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหรือลดลงจน ตํ่ากว่ามูลค่าที่ลงทุนและทําให้ขาดทุนได้

  • ผู้ที่สามารถลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว โดยคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าการลงทุน
    ในตราสารหนี้ทั่วไป

ช่องทางการซื้อกองทุนด้วยตนเอง


ผ่านธนาคารกรุงไทย

ผู้สนับสนุนการขายทั่วประเทศ

Click เพื่อค้นหาผู้สนับสนุนการขาย

บลจ.กรุงไทย
โทร 0-2686-6100

Back
To Top