คนทั่วโลกหันรักสุขภาพ กองทุน Healthcare โอกาสเติบโตสูง
ในช่วงที่ผ่านมาหุ้นในกลุ่ม Healthcare
มีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง
โดยกองทุนที่อยู่ภายใต้การจัดการ
ของบริษัทก็ให้ผลตอบแทนที่ดี
อยู่ในอันดับต้นๆของอุตสาหกรรม
ได้แก่ กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลธ์แคร์ ฟันด์ ( KT-Healthcare )
และกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลธ์แคร์ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ ( KT-Healthc RMF )
โดยทั้ง2กองทุนมีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน
Janus Global Life Sciences Fund ( Master Fund )
กองทุนมีวัตถุประสงค์การลงทุนเพื่อการเติบโตของเงินลงทุน
ในระยะยาว เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทต่างๆ ทั่วโลก
ที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์
ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต ( Life Sciences )
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรักษา หรือการพัฒนาคุณภาพชีวิต
หุ้นกลุ่ม Healthcare ประกอบด้วย
กลุ่มยา (pharmaceuticals)
กลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ (biotechnology)
กลุ่มเครื่องมือแพทย์ (medical products)
กลุ่มประกันสุขภาพ(medical insurance)
กลุ่มโรงพยาบาล คลินิค สถานดูแลผู้ป่วย
/ผู้สูงอายุ(pharmaceutical services )
และกลุ่มเวชสำอาง
ดังนั้น Healthcare จึงถือเป็นหุ้นกลุ่มที่มีการ
กระจายตัวการลงทุนที่หลากหลายและสร้าง
ผลตอบแทนโดดเด่นในช่วง10 ปีที่ผ่านมา
เพราะแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจน
อันเป็นผลจากปัจจัยสนับสนุนเชิงโครงสร้าง
หลายประการ เช่น คนอายุยืนขึ้น ประชากร
สูงวัยมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น
ความปลอดภัยด้านสุขภาพ/อาหาร
ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี
การใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น
แนวโน้มเหล่านี้น่าจะยังคงดำเนินต่อไป
และสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในกลุ่ม
Healthcare อย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว
นายแอนดี้ แอคเคอร์
ผู้จัดการร่วมของกองทุน Global Life Sciences
กล่าวถึง โอกาสลงทุนในหุ้นกลุ่มที่เขาเชี่ยวชาญ
ว่าการลงทุนหุ้นกลุ่ม Healthcare
มีการขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วของนวัตกรรม
ปีที่ผ่านมาองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ
อนุมัติยา 59 รายการ ทำสถิติสูงสุดใหม่
โดยในช่วง 2 ปีล่าสุด ยารักษาโรคกว่า 100 รายการ
ได้รับการอนุมัติ และผลิตภัณฑ์เหล่านี้
ซึ่งเพิ่งเริ่มวางตลาด น่าจะเพิ่มการเติบโตของ
อุตสาหกรรมดังกล่าวในอีกหลายปีข้างหน้า
การควบรวมกิจการในกลุ่ม Healthcare
มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อไปในปี 2019
เพราะบริษัทในกลุ่มฯมีเงินสดมาก
อันเป็นผลสืบเนื่องจากการปฏิรูปภาษี
ทำให้คาดการณ์ได้ว่าบริษัทเหล่านี้จะเพิ่มการใช้จ่าย
เพราะปกติก็มักจะแสวงหาการลงทุนและโอกาสใหม่ๆอยู่แล้ว
“ในไตรมาสแรกของปี 2019 มีธุรกรรมมูลค่ากว่า $1 แสนล้าน
ถูกประกาศออกมาหรือจบดีลได้
ทั้งหมดตกลงกันที่ราคาพรีเมี่ยมตั้งแต่ 50% ถึงกว่า 100%
อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการกองทุนคาดว่า
จะเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ในปี 2019
น่าจะได้เห็นผลการศึกษาเกี่ยวกับ
ภูมิคุ้มกันบำบัด (immunotherapy) เพื่อสู้กับโรคมะเร็ง
และ พันธุกรรมบำบัด (genetic therapies) ตัวใหม่ๆ
ขณะที่ บริษัทเครื่องมือแพทย์ น่าจะก้าวหน้าไปกับ
หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด และเครื่องมือใหม่ๆที่ช่วยแก้ปัญหาหัวใจผิดปกติ
แนวโน้มโครงสร้างประชากร
ยังคงสนับสนุนการเติบโตของกลุ่ม Healthcare
ในสหรัฐฯ มีคนฉลองวันเกิดครบ 65 ปี
เฉลี่ยวันละมากกว่า 1 หมื่นคน
ตัวเลขนี้สำคัญเพราะผู้สูงอายุ > 65 ปี
ใช้จ่ายเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพคิดเป็น 3 เท่า
ของผู้ใหญ่ที่อายุน้อยกว่า 65 ปี เราเชื่อว่า
ประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นทั่วโลก
ประกอบกับนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้น
น่าจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงของ
ความต้องการดูแลสุขภาพ”
นายแอนดี้ แอคเคอร์ กล่าว
ทั้งนี้ อนาคตของกลุ่ม Healthcare
ยังคงแข็งแกร่งในปี 2019 งบดุลที่แข็งแรง
ตลอดจนความก้าวหน้าด้านนวัตกรรม
น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้น
และดึงดูดความสนใจของนักลงทุน
สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังของ
กองทุน KT- Healthcare
ณ วันที่ 29 มีนาคม 2562YTD (2ม.ค.-29มี.ค.)
อยู่ที่ 13.65%
1ปี อยู่ที่ 10.56% และ3ปี อยู่ที่ 9.80%
เทียบกับBenchmark YTD อยู่ที่ 7.18%
1ปี อยู่ที่ 14.35% และ3ปี อยู่ที่ 6.25%
ส่วนกองทุน KT-Healthc RMF YTD อยู่ที่13.55%
1ปี อยู่ที่ 10.04% และ3ปี อยู่ที่ 9.13%
เมื่อเทียบกับBenchmark
YTD อยู่ที่ 7.18% 1ปี อยู่ที่ 14.35% และ3 ปี อยู่ที่ 6.25%
อัตราการเติบโตของดัชนีหุ้นกลุ่ม Health Care
รายระเอียดเพิ่มเติม
กองทุน KT-Healthcare
https://www.ktam.co.th/fif-fund-detail.aspx?IdF=29
กองทุน KT-Healthc-RMF
https://www.ktam.co.th/rmf-ltf-fund-detail.aspx?IdF=15
#สนใจติดต่อได้ที่
-ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
-ผู้สนับสนุนการขายทั่วประเทศ
-บลจ.กรุงไทย โทร 02-686-6100 กด 9
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะ
เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน /
ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยัน ถึงผลการดำเนินงานในอนาคต