เตรียมตัวอย่างไร ให้ปลอดภัยจาก โควิดระลอก 2
ท่ามกลางการผ่อนคลายของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19เราได้เห็นผู้คนกลับมาดำเนินวิถีชีวิตแบบเดิมขึ้นเรื่อยๆเพราะทุกคนก็ต้องทำมาหากินเลี้ยงชีพเลี้ยงครอบครัวกันทั้งนั้น แค่เพียงช่วงเริ่มต้นของการผ่อนคลายเราก็ได้เห็นบรรดานายแพทย์และหน่วยงานด้านสาธารณสุขแสดงความกังวลกับการกลับมาดำเนินชีวิตแล้ว เพราะมีบทเรียนจากกรณีไข้หวัดสเปนในอดีตให้เห็นว่า ผู้คนที่เสียชีวิต จำนวนกว่า 50 ล้านคนทั่วโลก ส่วนใหญ่ป่วยและเสียชีวิตในช่วงการระบาดระลอกที่ 2 ซึ่งเกิดขึ้นหลังการผ่อนคลาย มิใช่ระลอกแรกที่คนหวาดกลัวและป้องกันตัวเอง
ในมุมของแพทย์นั้นการผ่อนคลายมาตรการเร็วเกินไป อาจจะนำไปสู่การแพร่ระบาดระลอกที่2แต่หากจำเป็นจะต้องมีการผ่อนคลายเพื่อให้ระบบเศรษฐกิจฟื้นตัว ก็จำเป็นต้องคง 3 มาตรการพื้นฐานไว้ให้ประชาชนปฏิบัติต่อไป ได้แก่ การสวมหน้ากาก การเว้นระยะห่างของผู้คน 1-2 เมตร และการล้างมือบ่อยๆแต่หากเรามองแบบภาพใหญ่ หากเราจะรอดในสถานการณ์แพร่ระบาดระลอก 2 หรือระลอกอื่น ๆ ในปีหน้า เราจะต้องมองไปถึงการดำรงชีวิตภายใต้มาตรการ ล็อกดาวน์ในอนาคตด้วย เพราะหากเกิดขึ้นจริง ในวันที่ ทุกธุรกิจต้องหยุดชะงัก เราต้องอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ แล้วเราจะเอาอะไรกิน
“เริ่มเร็ว ยังมีโอกาสรอด”
ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนต้องตัดสินใจวางแผนการใช้เงินซึ่งควรแบ่งหลักๆจากสิ่งที่จำเป็น 3 กลุ่มคือ1. ค่าใช้จ่ายกับภาระในอดีต (หนี้สิน) ซึ่งช่วงนี้สามารถขอความช่วยเหลือจากธนาคารเจ้าหนี้ไปก่อน
2. ค่าใช้จ่ายกับภาระในปัจจุบันโดยเน้นจับจ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น ลดหรือเลิกสิ่งที่ฟุ่มเฟือยให้ได้มากที่สุด
3. ค่าใช้จ่ายกับภาระในอนาคต ทั้งการเก็บออม และลงทุนตามกำลังเพื่อเพิ่มรายได้ และความมั่นคงของชีวิตในช่วงที่โควิดกลับมาอีกหลายระลอก
แม้ว่าหลายคนอาจจะสามารถวางแผนได้เฉพาะข้อ 1 หรือ ข้อ 2 แต่สำหรับผู้ที่ยังพอมีโอกาสวางแผนเผื่อในข้อ 3 แต่ยังไม่รู้จะเริ่มทางใด เราขอแนะนำการลงทุนผ่าน “กองทุนรวม” ซึ่งเปรียบเสมือนการออมเงินโดยมีบริษัทจัดการกองทุนมืออาชีพนำเงินของเราไปบริหารและลงทุนในธุรกิจต่าง ๆหากเราตัดสินใจลงทุนได้เร็วตั้งแต่อายุยังน้อย โอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนของการลงทุนจะยิ่งมากขึ้น และทำให้เราไม่ลำบากหากต้องเผชิญกับสถานการณ์ในอนาคตปัจจุบันมีบริษัทจัดการกองทุนจำนวนมากที่เปิดโอกาสให้เริ่มต้นการลงทุนด้วยเงินเพียง 500 - 1,000 บาท หากมีวินัย ทยอยซื้อหน่วยลงทุนก็สามารถสร้างโอกาสเพิ่มผลตอบแทนได้เช่นเดียวกับนักลงทุนรายใหญ่
KTAM แนะนำ
การวางแผนการเงินเพื่ออนาคตเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับผู้สนใจการลงทุนและการออมในระยะยาว โดยปัจจุบันการลงทุนผ่านกองทุนรวมเพื่อการออม ชนิดเพื่อการออมพิเศษ (Super Saving Fund Extra: SSFX) ซึ่งเป็นกองทุนสำหรับการออมระยะยาวที่ ตอบโจทย์สำหรับมนุษย์เงินเดือน โดยได้สิทธิประโยชน์หักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนได้ตามจ่ายจริงมากสูงถึง 2 แสนบาท (โดยแยกจากวงเงินหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน SSF ปกติ และไม่อยู่ภายใต้เพดานวงเงินหักลดหย่อนรวมในกองทุนเพื่อการเกษียณทั้งหมด ทั้งนี้เงื่อนไขอื่นๆ เป็นไปตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร) กองทุนดังกล่าวยังไม่มีจำกัดวงเงินซื้อขั้นต่ำครั้งแรก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดจำหน่ายแก่ผู้สนใจจนถึง 30 มิถุนายน 2563
สนใจลงทุนและดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิก https://ssfextra-ktam.com/
นอกจากนี้ KTAM ยังมีกองทุน “มั่งมีศรีสุข” เน้นการจัดสรรเงินลงทุน (Asset Allocation) ในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก เป็นการลงทุนแบบ Fund of Funds ที่อยู่ภายใต้การบริหาร และจัดการของบริษัท และจะลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งไม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน แบ่งเป็น 4 กองทุนต่าง ๆ ได้แก่

1. กองทุนเปิดกรุงไทยมั่งคั่ง (KTMUNG) เหมาะกับ
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง เข้าใจและยอมรับ
ในความผันผวนของสินทรัพย์ต่างๆ ในระยะยาวได้
เน้นลงทุนในตราสารทุน 75% ตราสารหนี้ 15%
ตราสารทางเลือก 10%
2. กองทุนเปิดกรุงไทยมีทรัพย์ (KTMEE) เหมาะกับ
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ตั้งแต่ปานกลางถึงสูง
โดยลงทุนในตราสารทุน 50% ตราสารหนี้ 40%
ตราสารทางเลือก 10%
3. กองทุนเปิดกรุงไทยศรีสิริ (KTSRI) เหมาะกับ
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง อยากได้รับ
ผลตอบแทนที่ดีขึ้น โดยลงทุนในตราสารหนี้ 65%
ตราสารทุน 25% ตราสารทางเลือก 10%
4. กองทุนเปิดกรุงไทยสุขใจ (KTSUK) เหมาะกับ
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย เน้นลงทุนใน
สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสมํ่าเสมอความ
ผันผวนน้อย โดยลงทุนในตราสารหนี้ 80%
ตราสารทุน 10% ตราสารทางเลือก 10%
สนใจกองทุนซีรี่ มั่ง มี ศรี สุข
รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก
การศึกษาหาข้อมูลกองทุนที่น่าสนใจเป็นเรื่องสำคัญ
แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง
เช่น ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน
ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุนในผู้ออกตราสาร เป็นต้น
ดังนั้นหากเราจะลงทุนก็ต้องศึกษาข้อมูลต่าง ๆ
และต้องทำความเข้าใจในลักษณะสินค้า
เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียด
หรือขอรับหนังสือชี้ชวนที่ธนาคารกรุงไทย ผู้สนับสนุนการขาย
หรือ บลจ.กรุงไทย โทร 02-686-6100 กด 9
คำเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน