กองทุนไหนของ KTAM ที่ได้รับความนิยมและมีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีสูงสุด?
เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเทศด้วยเงินแค่หลักพัน
ถ้าอยากเป็นเจ้าของตึกเกรด A ในประเทศไทย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย หรือยุโรป คุณคิดว่า ต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นที่เท่าไหร่ครับ?
-
1 ล้านบาท
-
5 ล้านบาท
-
10 ล้านบาท
ผิดครับ เราสามารถเริ่มต้นลงทุนได้ด้วยเงินแค่เพียง 1,000 บาท โดยลงทุนผ่าน “กองทุนอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานและกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)”
ซึ่งก็คือกองทุนประเภทหนึ่งที่ระดมเงินจากนักลงทุน โดยขายหน่วยลงทุนเหมือนปกติ และนำเงินที่ได้ไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์รูปแบบต่างๆ เช่น อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โครงข่ายโทรคมนาคม คลังสินค้า โดยเน้นการได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอในรูปแบบของค่าเช่าและเงินปันผล ไม่ได้ไปซื้อมาเพื่อปรับปรุงหรือขายต่อด้วยตัวเอง
คำถามที่มักจะมีคนถามกันถึงกองทุนประเภทนี้มีด้วยกัน 3 ข้อ คือ
1. ช่วงนี้ดอกเบี้ยเริ่มปรับลดลง พันธบัตรระยะยาวผลตอบแทนก็ลดลง แล้วกองทุนอสังหาฯ จะลดลงตามไปด้วยไหม
ต้องตอบแบบนี้ว่า ยิ่งดอกเบี้ยขาลง ยิ่งต้องซื้อกองทุนอสังหาฯ เพราะว่ามีความแน่นอนกว่าในเรื่องผลตอบแทน ปัจจุบันอัตราเงินปันผลของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เท่ากับ 5.12% มากกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี ซึ่งปัจจุบันได้ผลตอบแทน ประมาณ 1.84% ดังนั้นทำให้ผลต่างของเงินปันผลและพันธบัตรรัฐบาลไทย (Dividend Yield Gap) อยู่ที่ระดับประมาณ 3.28%
ที่มา Bloomberg ข้อมูล ณ วันที่ 31กรกฎาคม 2562
2. ช่วงนี้ตลาดหุ้นผันผวน วันนี้บวกเยอะ อีกวันลงเยอะ แล้วกองทุนอสังหาฯ ผันผวนแบบนี้ไหม
ถ้าเทียบกันแล้วกองทุนอสังหาฯ ผันผวนน้อยกว่าหุ้นเยอะ มีตัวเลขตัวหนึ่งที่เรียกว่า ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ที่เอาไว้ดูความผันผวนจากค่าเฉลี่ยมากน้อยแค่ไหน ตัวเลขย้อนหลัง 3 ปีของ SET คือ 9.8% และของ SETPREIT คือ 6.09% แปลว่า ราคาหรือผลตอบแทนของกองทุนอสังหาฯ หรือ กอง REIT จะไม่เหวี่ยงขึ้นลงออกจากค่าเฉลี่ยมากเหมือนกับ SET
ที่มา Bloomberg ข้อมูล ณ วันที่ 31กรกฎาคม 2562
3. มีประวัติการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ
ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานและกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ของไทย จ่ายเงินปันผลเฉลี่ยปีละ 5.87 % และหากนำเงินปันผลดังกล่าวกลับไป Reinvestment ในดัชนีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนโครงสร้างพื้นฐานและกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ จะสามารถสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนได้ปีละ 13.59% เลยทีเดียว
ที่มา Bloomberg ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2562
ฟังดูน่าสนใจสำหรับโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีและเงินปันผลสม่ำเสมอ แต่ว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนโครงสร้างพื้นฐานและกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ก็มีให้เลือกมากมาย แล้วเราจะเลือกกองไหนดี
คำตอบแบบกำปั้นทุบดิน คือ ก็เลือกกองที่มีผลตอบแทนดีสิครับ และกองนั้นก็คือ กองทุนเปิดกรุงไทย พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล หรือ KT-PIF เป็นกองทุนผสมที่ได้รับความนิยมสูงสุด และมีผลตอบแทนจากต้นปีสูงที่สุดของ บลจ.กรุงไทย* แบบนี้ครับ
*ที่มา บลจ.กรุงไทย ข้อมูล ณ 31 กรกฎาคม 2562
กองทุนมีนโยบายและกลยุทธ์การลงทุนที่เน้นลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีพื้นฐานดี และยังมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง โดยจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงและมีประวัติการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ ทรัพย์สินในกองทุนมีคุณภาพและมีแนวโน้มการสร้างรายได้ที่ดี รวมถึงการวิเคราะห์ภาพรวมราย Sector เพื่อให้มีการกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม
ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน KT-PIF-D (ชนิดจ่ายเงินปันผล)

ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน KT-PIF-A (ชนิดสะสมมูลค่า)

ที่มา บลจ. กรุงไทย ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2562
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีระดับมากกว่า 20% และผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมากกว่า 10% ต้องถือว่ายอดเยี่ยม และเป็นการเติบโตสม่ำเสมอมาโดยตลอด
พอร์ตการลงทุนหน้าตาเป็นอย่างไร
- 50-60% ลงทุนในประเทศไทย อาทิเช่น
- DIF หรือ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิตอล ที่ลงทุนในเสาโทรคมนาคม ใยแก้วนำแสง และระบบบรอดแบรนด์
- QHPF หรือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ เฮ้าส์ ลงทุนในอาคารสำนักงานย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ประกอบด้วย อาคารคิวเฮ้าส์ เพลินจิต อาคารคิวเฮ้าส์ ลุมพินี และอาคารเวฟ เพลส
- WHART หรือ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท ที่เป็นทั้งคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าให้เช่า รวมถึงโครงการให้เช่าพื้นที่หลังคา เพื่อผลิต Solar Rooftop อีกด้วย
- 40-50% ลงทุนในประเทศสิงคโปร์ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีแต่เฉพาะโครงการอสังหาในประเทศสิงคโปร์เท่านั้น เช่น กองทุน AREIT ที่ไปลงทุนด้วยก็มีการกระจายไปทั้งออสเตรเลีย เวียดนาม หรือประเทศในยุโรปด้วยเช่นกัน
- 5-10% ถือเป็นเงินสด เพื่อหมุนเวียน
โดยสรุปแล้ว ในภาวะดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง เศรษฐกิจดูไม่ค่อยสดใส ตลาดหุ้นผันผวน การเลือกลงทุนใน “กองทุนอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานและกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)” น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่มั่นคงและสม่ำเสมอให้กับพอร์ตของคุณครับ
กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ศึกษารายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนที่ ธนาคารกรุงไทย ผู้สนับสนุนการขาย หรือ บลจ.กรุงไทย โทร 02-686-6100 กด 9