บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTAM) ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง จากการบริหารกองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นทุนปันผล (The Krung Thai Dividend Selected Fund : KTSF) โดยได้รับรางวัลกองทุนตราสารทุนยอดเยี่ยมปี 2023 ประเภท กองทุนหุ้นขนาดใหญ่ (Equity Large Cap) จากมอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของโลกทางด้านการให้บริการข้อมูลและการวิเคราะห์เกี่ยวกับการลงทุนต่างๆ ในงาน Morningstar Thailand Fund Awards 2023 โดยมีนางชวินดา หาญรัตนกูล (ที่ 4 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ และนางแสงจันทร์ ลี (ที่ 4 จากขวา) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน งานลงทุนในตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมทีมผู้จัดการกองทุนเป็นตัวแทนขึ้นรับรางวัล ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 นี้
รางวัลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเลิศในการบริหารของผู้จัดการกองทุน ด้วยการใช้ความสามารถในการคัดสรรหุ้นและให้น้ำหนักลงทุนรายหุ้นเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการที่มีนักวิเคราะห์ที่ช่วยสนับสนุนให้ข้อมูลในเชิงลึก และให้คำแนะนำในลักษณะของการมองไปข้างหน้าเพื่อประเมินหามูลค่าที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานของหุ้น และมีคณะกรรมการจัดการลงทุนช่วยกลั่นกรองให้การลงทุนอยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม
สำหรับกองทุน KTSF มีกลยุทธ์การบริหารแบบเชิงรุก มีการกระจายตัวในหุ้นอย่างเหมาะสม กองทุนจะลงทุนในหุ้นโดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV เน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยจัดพอร์ตการลงทุนแบ่งเป็น 1) Core Portfolio เน้นลงทุนหุ้นที่มีความมั่นคง มีปัจจัยพื้นฐานดี มี Valuation ที่เหมาะสม เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนจาก Capital gain รวมถึงเงินปันผลในระยะยาว และ 2) Satellite Portfolio เป็นการลงทุนตามธีมการลงทุน และกองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน เพื่อมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (SET TRI)
ปัจจัยความเสี่ยงของกองทุน KTSF ที่สำคัญ : ความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาตราสาร ความเสี่ยงจากการดําเนินงานของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของตราสาร ความเสี่ยงทางธุรกิจ และความเสี่ยงจากการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
?
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
รางวัลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเลิศในการบริหารของผู้จัดการกองทุน ด้วยการใช้ความสามารถในการคัดสรรหุ้นและให้น้ำหนักลงทุนรายหุ้นเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการที่มีนักวิเคราะห์ที่ช่วยสนับสนุนให้ข้อมูลในเชิงลึก และให้คำแนะนำในลักษณะของการมองไปข้างหน้าเพื่อประเมินหามูลค่าที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานของหุ้น และมีคณะกรรมการจัดการลงทุนช่วยกลั่นกรองให้การลงทุนอยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม
สำหรับกองทุน KTSF มีกลยุทธ์การบริหารแบบเชิงรุก มีการกระจายตัวในหุ้นอย่างเหมาะสม กองทุนจะลงทุนในหุ้นโดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV เน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยจัดพอร์ตการลงทุนแบ่งเป็น 1) Core Portfolio เน้นลงทุนหุ้นที่มีความมั่นคง มีปัจจัยพื้นฐานดี มี Valuation ที่เหมาะสม เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนจาก Capital gain รวมถึงเงินปันผลในระยะยาว และ 2) Satellite Portfolio เป็นการลงทุนตามธีมการลงทุน และกองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน เพื่อมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (SET TRI)
ปัจจัยความเสี่ยงของกองทุน KTSF ที่สำคัญ : ความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาตราสาร ความเสี่ยงจากการดําเนินงานของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของตราสาร ความเสี่ยงทางธุรกิจ และความเสี่ยงจากการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
?
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน