กับดักจิตวิทยาการลงทุน
ทำไมจุดเข้าซื้อที่ดีที่สุด หรือ “Perfect Entry Point” จึงไม่มีอยู่จริง?
นักลงทุนหลายคนอาจเจอกับสภาวะลังเลกับการตัดสินใจเข้าลงทุน ที่วนลูปซ้ำไปซ้ำมาแบบเดิมอยู่หลายครั้ง ทั้งที่มีข้อมูลครบถ้วน เห็นราคาที่อยากได้อยู่ตรงหน้า แต่กลับคิดว่า… “รออีกนิดดีกว่า เผื่อราคาที่ดีกว่าจะโผล่มา” และระหว่างที่ลังเลอยู่นั้นตลาดกลับเดินหน้า และราคาที่อยากได้อาจไม่กลับมาอีกเลย
สิ่งนี้ไม่ใช่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเพียงแค่กับการลงทุน แต่เป็นกับดักทางความคิดที่นักปราชญ์กรีกโบราณชื่อ ซีโนแห่งเอเลอา (Zeno of Elea) เคยตั้งข้อสังเกตไว้เมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน หรือที่รู้จักกันในนาม Zeno’s Paradox
Zeno’s Paradox คืออะไร และเชื่อมโยงกับการลงทุนอย่างไร?
นักปราชญ์กรีก Zeno เคยเสนอแนวคิดเรื่อง “Dichotomy Paradox” หรือกับดักของระยะทางไม่สิ้นสุด ที่เกิดขึ้นกับคนที่ตั้งเป้าหมายของการเดินทางแบบไม่เด็ดขาด 100% แต่กลับสร้างเป้าหมายย่อยขึ้นมาแทน
ตัวอย่างเป้าหมายย่อยที่เกิดขึ้น คือ "ถ้าจะไปถึงจุดหมายได้ ก็ต้องไปให้ได้ครึ่งทางก่อน!" หรือหากตั้งเป้าหมายย่อยเข้าไปอีก ก็จะเป็น "ก่อนครึ่งทางต้องไปหนึ่งในสี่" หรือ "ก่อนหนึ่งในสี่ต้องไปหนึ่งในแปด" ซึ่งยิ่งทำให้ดูเหมือนเป้าหมายปัจจุบันอยู่ห่างไกลจากจุดหมายแรกไปอีก เพราะผู้เดินทางตั้งเป้าย่อยซ้ำไปเรื่อย ๆ
ในตลาดหุ้นหรือคริปโต ก็มักเห็นพฤติกรรมที่ใกล้เคียงกันนี้ เช่น ตั้งใจซื้อหุ้น A ที่ราคา 100 บาท → พอเห็นราคาลงมาเหลือ 98 บาท ซึ่งดีกว่าราคาที่อยากได้ กลับเปลี่ยนเป้าหมายเป็นรอซื้อที่ราคา 95 บาทแทน พอราคาลงมาถึง 95 ก็เปลี่ยนไปรอซื้อที่ 90 แทน... สุดท้ายราคากลับขึ้นไป 105 และไม่ย้อนกลับมาที่ 100 บาทอีกเลย
ภาวะนี้เกิดจากการที่ทุกครั้งที่ใกล้เป้าหมายก็ขยับเป้าย่อยออกไปอีก เพราะคิดว่ารอแล้วจะได้จังหวะดีกว่า ทั้งที่ความจริงแล้ว จุดที่ดีที่สุดมักรู้ได้ก็ต่อเมื่อมันผ่านไปแล้วเท่านั้น
ทำไม Perfect Entry Point จึงไม่มีอยู่จริง?
- ตลาดการเงินขับเคลื่อนด้วยปัจจัยมหภาค นโยบาย ข่าว และแรงซื้อขาย ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้
- ต่อให้มีเครื่องมือขั้นสูง ก็ไม่มีใครสามารถคาดเดาจุดต่ำสุดหรือสูงสุดได้ล่วงหน้า
- ในช่วงที่ใกล้จุดต่ำสุดจริง ๆ จิตวิทยาของนักลงทุนมักเต็มไปด้วยความกลัว ความไม่มั่นใจ และเกิดคำถามอย่าง “จะลงต่อไหม?” ขึ้นมาซ้ำๆ
- ส่งผลให้หลายคนตกอยู่ใน "Analysis Paralysis" หรือภาวะคิดมากจนไม่กล้าลงมือ และพลาดโอกาสไปต่อหน้าต่อตาได้
เมื่อคริปโตถูกเทขายหนัก ราคา BTC ลงมาที่ 16,000 ดอลลาร์ นักลงทุนหลายคนคาดหวังและรอให้ราคาลงถึง 12,000 ดอลลาร์ก่อนค่อยซื้อแต่หลังจากนั้นราคากลับฟื้นขึ้นต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีราคาสูงกว่า 100,000 ดอลลาร์ ดังนั้น ผู้ที่รอซื้อที่ “จุดต่ำสุด” ก็จะยังคงถือเงินสด ขณะที่คนที่ซื้อแม้ไม่ใช่ราคาต่ำสุดก็มีโอกาสกำไรที่สูงกว่าได้
กลยุทธ์แทนการรอจังหวะเพอร์เฟกต์
- Dollar-Cost Averaging (DCA): การทยอยลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
- เน้นการวิเคราะห์มูลค่า (Value) แทนการมองแค่ราคา (Price) และเชื่อมั่นในตัวเอง
จึงควรลงทุนด้วย “สมมติฐาน” ไม่ใช่ด้วย “อารมณ์”
- การมี Investment Thesis ที่ชัดเจน
บทสรุป: อย่ามัวแต่รอเป็น “Sniper” ในตลาด แต่จงเป็น “Farmer” ที่เข้าใจจังหวะของเวลา
- นักลงทุนที่เปรียบเสมือน “Sniper” มักรอจังหวะที่ดีที่สุดเพื่อทำการตัดสินใจ ซึ่งบางครั้งโอกาสเหล่านั้นไม่เคยมาถึงจริง ในขณะที่ “Farmer” ลงมือหว่านเมล็ดพันธุ์ตั้งแต่วันนี้ แม้จะยังไม่เห็นผลลัพธ์ในทันที แต่เชื่อมั่นในกระบวนการและกาลเวลา
- ตลาดมักให้รางวัลกับผู้ที่มีวินัยและกล้าที่จะเข้าสู่เกม ไม่ใช่กับผู้ที่เอาแต่เฝ้ารอจังหวะที่ไม่มีวันมาถึง
- ดังนั้น ครั้งต่อไปที่รู้สึกว่าต้องรอให้ราคาปรับตัวลงไปอีกนิด ก่อนจะตัดสินใจลงทุน ขอให้นึกถึง Zeno’s Paradox ว่าหากมัวแต่รอ “ครึ่งทาง” ก็อาจไม่มีวันไปถึงเป้าหมายได้เลย