ทำความรู้จัก Capital Securities อีกหนึ่งทางเลือกของการลงทุนตราสารหนี้
โลกของการลงทุนตราสารหนี้ (Fixed Income) มักถูกมองว่าเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างคาดการณ์ได้ง่าย ไม่ผันผวนมากอย่างหุ้นหรือทองคำ โดยมองว่าพันธบัตรรัฐบาลคือที่หลบภัย (safe haven) ขณะที่ตราสารหนี้ภาคเอกชน investment-grade คือเสาหลักของความมั่นคง และ High Yield Bonds คือแหล่งรายได้ที่แลกมากับความเสี่ยงที่สูงขึ้น
แต่เหนือไปกว่าหมวดหมู่ที่คุ้นเคยเหล่านี้ ยังมีอีกมุมที่นักลงทุนจำนวนมากยังไม่ค่อยเข้าถึงได้มากนัก นั่นคือ “Capital Securities” ซึ่งไม่ได้มีโครงสร้างเหมือนพันธบัตรทั่วไป และก็ไม่ผันผวนสุดขั้วเหมือนหุ้น จุดกึ่งกลางนี้อาจดูมีความซับซ้อนและถูกเข้าใจผิดอยู่บ่อยครั้ง แต่เป็นส่วนหนึ่งของตราสารที่กำลังมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในระบบการเงินสมัยใหม่
จุดกำเนิดของ Capital Securities
หลังวิกฤติการเงินโลกในปี 2008 หน่วยงานกำกับดูแลได้ยกระดับข้อกำหนดให้สถาบันการเงินต้องมีความสามารถในการดูดซับการสูญเสียทั้งหมด หรือที่เรียกว่า Loss-absorbing capital มาขึ้นบนงบดุล โดยเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลอย่าง Basel III (สำหรับธนาคาร) และ Solvency II (สำหรับบริษัทประกัน) กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าต้องถือเงินในลักษณะนี้เป็นจำนวนเท่าใด
ดังนั้น การออกตราสารหนี้ประเภท “Capital Securities“ เพื่อกู้เงินมาสร้างกองทุนดังกล่าวจึงเป็นช่องทางที่ช่วยให้สถาบันการเงินสามารถเพิ่มเงินกองทุนที่ถูกนับรวมตามกฎเกณฑ์โดยไม่จำเป็นต้องออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ ซึ่งจะไปลดทอนสัดส่วนผู้ถือหุ้นเดิม
สำหรับนักลงทุนในตลาดตราสารเหล่านี้ ถือเป็นโอกาสเข้าถึงผลตอบแทนที่สูงกว่าตราสารหนี้แบบดั้งเดิม แต่แน่นอนว่าก็มาพร้อมกับความเสี่ยงเพิ่มเติมที่มากขึ้น เพราะตราสารเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นกลไกในการดูดซับความสูญเสีย เมื่อสถาบันการเงินผู้ต้องเผชิญภาวะวิกฤติ
ลักษณะและรูปแบบหลักของ Capital Securities
Capital securities คือ ตราสารลูกผสม (Hybrid Instruments) ที่รวมคุณสมบัติของหนี้และทุนเข้าด้วยกัน โดยโครงสร้างหลักที่พบได้บ่อย ได้แก่
โลกของการลงทุนตราสารหนี้ (Fixed Income) มักถูกมองว่าเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างคาดการณ์ได้ง่าย ไม่ผันผวนมากอย่างหุ้นหรือทองคำ โดยมองว่าพันธบัตรรัฐบาลคือที่หลบภัย (safe haven) ขณะที่ตราสารหนี้ภาคเอกชน investment-grade คือเสาหลักของความมั่นคง และ High Yield Bonds คือแหล่งรายได้ที่แลกมากับความเสี่ยงที่สูงขึ้น
แต่เหนือไปกว่าหมวดหมู่ที่คุ้นเคยเหล่านี้ ยังมีอีกมุมที่นักลงทุนจำนวนมากยังไม่ค่อยเข้าถึงได้มากนัก นั่นคือ “Capital Securities” ซึ่งไม่ได้มีโครงสร้างเหมือนพันธบัตรทั่วไป และก็ไม่ผันผวนสุดขั้วเหมือนหุ้น จุดกึ่งกลางนี้อาจดูมีความซับซ้อนและถูกเข้าใจผิดอยู่บ่อยครั้ง แต่เป็นส่วนหนึ่งของตราสารที่กำลังมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในระบบการเงินสมัยใหม่
จุดกำเนิดของ Capital Securities
หลังวิกฤติการเงินโลกในปี 2008 หน่วยงานกำกับดูแลได้ยกระดับข้อกำหนดให้สถาบันการเงินต้องมีความสามารถในการดูดซับการสูญเสียทั้งหมด หรือที่เรียกว่า Loss-absorbing capital มาขึ้นบนงบดุล โดยเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลอย่าง Basel III (สำหรับธนาคาร) และ Solvency II (สำหรับบริษัทประกัน) กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าต้องถือเงินในลักษณะนี้เป็นจำนวนเท่าใด
ดังนั้น การออกตราสารหนี้ประเภท “Capital Securities“ เพื่อกู้เงินมาสร้างกองทุนดังกล่าวจึงเป็นช่องทางที่ช่วยให้สถาบันการเงินสามารถเพิ่มเงินกองทุนที่ถูกนับรวมตามกฎเกณฑ์โดยไม่จำเป็นต้องออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ ซึ่งจะไปลดทอนสัดส่วนผู้ถือหุ้นเดิม
สำหรับนักลงทุนในตลาดตราสารเหล่านี้ ถือเป็นโอกาสเข้าถึงผลตอบแทนที่สูงกว่าตราสารหนี้แบบดั้งเดิม แต่แน่นอนว่าก็มาพร้อมกับความเสี่ยงเพิ่มเติมที่มากขึ้น เพราะตราสารเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นกลไกในการดูดซับความสูญเสีย เมื่อสถาบันการเงินผู้ต้องเผชิญภาวะวิกฤติ
ลักษณะและรูปแบบหลักของ Capital Securities
Capital securities คือ ตราสารลูกผสม (Hybrid Instruments) ที่รวมคุณสมบัติของหนี้และทุนเข้าด้วยกัน โดยโครงสร้างหลักที่พบได้บ่อย ได้แก่
- Subordinated Debt หนี้ที่มีลำดับการชำระคืนต่ำกว่า senior debt (หนี้ที่มีสิทธิได้รับการชำระคืนก่อนหนี้ชั้นรองหรือหนี้อื่น ๆ) หากเกิดการล้มละลาย ผู้ถือจะถูกชำระภายหลังเจ้าหนี้ลำดับสูง
- Perpetual Bonds ตราสารหนี้ที่ไม่มีวันครบกำหนด ผู้ออกมีสิทธิไถ่ถอน (call) ได้ เป็นสิทธิ์เลือกของผู้ออกตราสาร
- Contingent Convertibles (CoCos) / Additional Tier 1 Bond (AT1) ตราสารที่สามารถถูกเปลี่ยนเป็นหุ้นหรือถูกตัดมูลค่า (write-down) ลงได้อัตโนมัติ หากอัตราส่วนเงินกองทุนของธนาคารต่ำกว่าระดับที่กำหนด (ในช่วงวิกฤติ)
ในลำดับชั้นของทุน (capital structure) ตราสารเหล่านี้จะอยู่มีศักดิ์อยู่เหนือหุ้นสามัญ แต่ยังต่ำกว่าหนี้อาวุโส (senior debt) ตำแหน่งตรงกลางนี้เอง ที่สะท้อนทั้งโอกาสรับผลตอบแทน และระดับความเสี่ยงการสูญเสียเงินต้นที่มากกว่าตราสารหนี้ทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงที่มีวิกฤติกับสถาบันการเงิน
สิ่งที่ทำให้ Capital Securities น่าสนใจ
สิ่งที่ทำให้ Capital Securities น่าสนใจ
- ผลตอบแทนของ capital securities มักสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลหรือหุ้นกู้ investment-grade อย่างชัดเจน บางครั้งสูงใกล้เคียง high yield bonds
- การกระจายความเสี่ยง (Diversification) ด้วยลักษณะลูกผสม ทำให้พฤติกรรมของราคามีความแตกต่างจากตราสารหนี้หรือหุ้นเพียงอย่างเดียว จึงสามารถใช้เพิ่มมิติใหม่ให้กับพอร์ตการลงทุนได้
- ผู้ออกตราสารเป็นสถาบันที่มีการกำกับดูแล โดยมากคือธนาคารและบริษัทประกันขนาดใหญ่ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่เข้มงวด แม้ไม่ถึงกับไร้ความเสี่ยงแต่ก็เป็นสถาบันการเงินระดับโลกที่มีความน่าเชื่อถือ
ความเสี่ยงและความซับซ้อนที่ต้องระวัง
- ความซับซ้อนเชิงโครงสร้าง (Structural Complexity) เงื่อนไขของตราสารเหล่านี้ซับซ้อนและมีอายุค่อนข้างยาว มีทั้งสิทธิเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ย การไถ่ถอนก่อนกำหนด หรือการเปลี่ยนสภาพเป็นทุน นักลงทุนจึงต้องอ่านและทำความเข้าใจรายละเอียดให้ดีก่อนลงทุน
- ตราสารเหล่านี้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นตัวรับความสูญเสียโดยตรง ตัวอย่างชัดเจนคือกรณี Credit Suisse ในปี 2023 ที่ผู้ถือ AT1 bonds ได้สูญเสียมูลค่าทั้งหมด แม้ผู้ถือหุ้นยังเหลือมูลค่าบางส่วน เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่าผลลัพธ์ในยามวิกฤติอาจไม่เป็นไปตามที่นักลงทุนคาดไว้ได้
- Perpetual bonds ส่วนใหญ่มักมีวันไถ่ถอน (call ) แรกเมื่ออายุ 5 ปี ทำให้นักลงทุนจำนวนมากคาดว่าผู้ออกจะไถ่ถอนทันทีตาม “ธรรมเนียมตลาด” แต่ความเป็นจริงแล้วไม่มีข้อผูกพันกำหนดไว้ หากสภาวะตลาดหรือกฎเกณฑ์ไม่เอื้อ ผู้ออกสามารถที่จะไม่ไถ่ถอนได้ ซึ่งเสี่ยงต่อการต้องถือตราสารนานกว่าที่คิดไว้
- ราคามีความผันผวนคล้ายหุ้น โดยช่วงตลาดสงบ พฤติกรรมราคาของ capital securities จะคล้ายกับพันธบัตร แต่เมื่อเริ่มเกิดความตึงเครียดในระบบการเงินหรือมีความเสี่ยงใหม่มากระทบ ราคาตราสารก็สามารถแกว่งแรงใกล้เคียงหุ้นได้
สภาพคล่องของตราสารประเภทนี้ในตลาดรอง มักต่ำกว่าพันธบัตรรัฐบาลหรือหุ้นกู้เอกชนอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ในช่วงที่ราคาผันผวน การขายอาจต้องยอมรับราคาที่แย่กว่าปกติ
เหมาะ / ไม่เหมาะกับใคร
เหมาะกับ:
เหมาะ / ไม่เหมาะกับใคร
เหมาะกับ:
- นักลงทุนที่แสวงหาผลตอบแทนสูงกว่าและรับความเสี่ยงได้
- นักลงทุนสถาบันหรือผู้มีประสบการณ์ ที่สามารถวิเคราะห์โครงสร้างซับซ้อนได้
- นักลงทุนที่ต้องการเพิ่มการกระจายความเสี่ยงในตราสารหนี้รูปแบบอื่นในพอร์ต
อาจไม่เหมาะกับ:
- นักลงทุนสายรักษาเงินต้นที่ต้องการรายได้มั่นคงและแน่นอน
- ผู้ที่มีกรอบเวลาการลงทุนสั้นหรือเน้นสภาพคล่องสูง
- นักลงทุนที่ต้องการตราสารที่ไม่ซับซ้อนและเข้าใจง่าย
บทสรุป
Capital Securities ไม่ใช่ตราสารหนี้ที่เรียบง่ายหรือเข้าใจได้ง่ายเหมือนพันธบัตรภาครัฐ หรือหุ้นกูเอกชน ทั้งยังมีความเสี่ยงสูญเสียเงินต้นหรือถูกเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยที่ผู้ลงทุนต้องยอมรับ ในขณะเดียวกัน Capital securities ก็สะท้อนโอกาสด้านผลตอบแทนและการกระจายความเสี่ยงที่แท้จริงในพอร์ตของนักลงทุนที่เข้าใจโครงสร้างของตราสารและคุณลักษณะได้อย่างถ่องแท้
สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือ capital securities จะยังคงอยู่ต่อไปในระบบการเงินโลก เพราะกฎระเบียบได้กำหนดให้ตราสารนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญของเงินกองทุนสถาบันการเงิน นักลงทุนยุคใหม่ ถึงแม้จะไม่ได้ลงทุนโดยตรง ก็ควรทำความเข้าใจว่าตราสารเหล่านี้คืออะไร ซึ่งการเคลื่อนไหวในตลาดนี้ ก็อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณที่สามารถใช้ในการจับความผิดปกติ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในระบบการเงินได้เช่นกัน
กองทุนเปิดเคแทม แคปปิตอล ซีเคียวริตี้ ฟันด์ (KT-CSBOND) หนึ่งทางเลือกการเข้าถึง Capital Securities
สำหรับนักลงทุนที่สนใจโลกของ capital securities ทาง KTAM ขอแนะนำกองทุน กองทุนเปิดเคแทม แคปปิตอล ซีเคียวริตี้ ฟันด์ (KT-CSBOND) (ความเสี่ยงระดับ 5) ซึ่งเป็นกองทุนรวม feeder fund เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ PIMCO GIS Capital Securities Fund (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV โดยกองทุนหลักมีเป้าหมายเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนสูงสุดจากการลงทุนใน Capital Securities ที่มีราคาน่าสนใจ นอกจากนี้ กองทุนยังมีความยืดหยุ่นของกลยุทธ์การลงทุน โดยสามารถทำการปรับสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ตามโครงสร้างเงินทุน (Capital Structure) ให้เหมาะสมตามสภาวะตลาดอยู่เสมอ
แม้ว่า capital securities จะมีความเสี่ยงสูงกว่าพันธบัตรทั่วไปและมีโครงสร้างที่ซับซ้อน แต่การลงทุนผ่านกองทุนรวมในลักษณะนี้ มีข้อได้เปรียบเชิงโครงสร้างที่สำคัญ ได้แก่
การเข้าถึงผลตอบแทนที่สูงกว่า ตราสารประเภทนี้มักให้ yield ที่สูงกว่าพันธทั่วไป ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ของพอร์ตรวม กองทุนแบบ active จะมีการพิจารณาถึงผลตอบแทนที่คุ้มค่า เมื่อเทียบกับระดับความเสี่ยงควบคู่ไปด้วย
การกระจายตัวเพื่อลดความเสี่ยง แทนที่จะลงทุนในตราสารใดตราสารหนึ่งเพียงไม่กี่ตัว กองทุนหลักของ PIMCO ลงทุนใน capital securities จากผู้ออกหลายสิบรายทั่วโลก จะช่วยลดความเสี่ยงเฉพาะรายที่อาจเกิดขึ้นกับธนาคารหรือบริษัทประกันแต่ละแห่งหรือแต่ละภูมิภาคได้
บริหารการจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ด้วยความซับซ้อนของตราสาร ทีมบริหารกองทุนระดับโลกอย่าง Pimco จึงมีบทบาทสำคัญในการคัดเลือกและจัดพอร์ต ขณะที่ KTAM ช่วยให้ผู้ลงทุนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ กองทุน KT-CSBOND-A ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นเลิศในการบริหารของทีมบริหารจัดการกองทุน ภายใต้กลยุทธ์การกระจายการลงทุนเพื่อลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน โดยได้รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปี 2568 ประเภทกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ (Foreign Fixed Income Fund) จากงาน Money & Banking Awards 2025 ซึ่งจัดโดยวารสารการเงินธนาคารอีกด้วย
คำเตือน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต / กองทุนมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงโดยดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือจะได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
#KTAM #KTAMSmartTrad #ดูแลใจไปพร้อมกับการลงทุน
Capital Securities ไม่ใช่ตราสารหนี้ที่เรียบง่ายหรือเข้าใจได้ง่ายเหมือนพันธบัตรภาครัฐ หรือหุ้นกูเอกชน ทั้งยังมีความเสี่ยงสูญเสียเงินต้นหรือถูกเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยที่ผู้ลงทุนต้องยอมรับ ในขณะเดียวกัน Capital securities ก็สะท้อนโอกาสด้านผลตอบแทนและการกระจายความเสี่ยงที่แท้จริงในพอร์ตของนักลงทุนที่เข้าใจโครงสร้างของตราสารและคุณลักษณะได้อย่างถ่องแท้
สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือ capital securities จะยังคงอยู่ต่อไปในระบบการเงินโลก เพราะกฎระเบียบได้กำหนดให้ตราสารนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญของเงินกองทุนสถาบันการเงิน นักลงทุนยุคใหม่ ถึงแม้จะไม่ได้ลงทุนโดยตรง ก็ควรทำความเข้าใจว่าตราสารเหล่านี้คืออะไร ซึ่งการเคลื่อนไหวในตลาดนี้ ก็อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณที่สามารถใช้ในการจับความผิดปกติ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในระบบการเงินได้เช่นกัน
กองทุนเปิดเคแทม แคปปิตอล ซีเคียวริตี้ ฟันด์ (KT-CSBOND) หนึ่งทางเลือกการเข้าถึง Capital Securities
สำหรับนักลงทุนที่สนใจโลกของ capital securities ทาง KTAM ขอแนะนำกองทุน กองทุนเปิดเคแทม แคปปิตอล ซีเคียวริตี้ ฟันด์ (KT-CSBOND) (ความเสี่ยงระดับ 5) ซึ่งเป็นกองทุนรวม feeder fund เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ PIMCO GIS Capital Securities Fund (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV โดยกองทุนหลักมีเป้าหมายเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนสูงสุดจากการลงทุนใน Capital Securities ที่มีราคาน่าสนใจ นอกจากนี้ กองทุนยังมีความยืดหยุ่นของกลยุทธ์การลงทุน โดยสามารถทำการปรับสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ตามโครงสร้างเงินทุน (Capital Structure) ให้เหมาะสมตามสภาวะตลาดอยู่เสมอ
แม้ว่า capital securities จะมีความเสี่ยงสูงกว่าพันธบัตรทั่วไปและมีโครงสร้างที่ซับซ้อน แต่การลงทุนผ่านกองทุนรวมในลักษณะนี้ มีข้อได้เปรียบเชิงโครงสร้างที่สำคัญ ได้แก่
การเข้าถึงผลตอบแทนที่สูงกว่า ตราสารประเภทนี้มักให้ yield ที่สูงกว่าพันธทั่วไป ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ของพอร์ตรวม กองทุนแบบ active จะมีการพิจารณาถึงผลตอบแทนที่คุ้มค่า เมื่อเทียบกับระดับความเสี่ยงควบคู่ไปด้วย
การกระจายตัวเพื่อลดความเสี่ยง แทนที่จะลงทุนในตราสารใดตราสารหนึ่งเพียงไม่กี่ตัว กองทุนหลักของ PIMCO ลงทุนใน capital securities จากผู้ออกหลายสิบรายทั่วโลก จะช่วยลดความเสี่ยงเฉพาะรายที่อาจเกิดขึ้นกับธนาคารหรือบริษัทประกันแต่ละแห่งหรือแต่ละภูมิภาคได้
บริหารการจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ด้วยความซับซ้อนของตราสาร ทีมบริหารกองทุนระดับโลกอย่าง Pimco จึงมีบทบาทสำคัญในการคัดเลือกและจัดพอร์ต ขณะที่ KTAM ช่วยให้ผู้ลงทุนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ กองทุน KT-CSBOND-A ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นเลิศในการบริหารของทีมบริหารจัดการกองทุน ภายใต้กลยุทธ์การกระจายการลงทุนเพื่อลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน โดยได้รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปี 2568 ประเภทกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ (Foreign Fixed Income Fund) จากงาน Money & Banking Awards 2025 ซึ่งจัดโดยวารสารการเงินธนาคารอีกด้วย
คำเตือน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต / กองทุนมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงโดยดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือจะได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
#KTAM #KTAMSmartTrad #ดูแลใจไปพร้อมกับการลงทุน