• X
  • ค้นหา
  • TH EN
  • Menu แนะนำ
    • NAV
    • ค้นหากองทุน
    • กองทุนแนะนำ
    • กองทุนผลงานดี
    • ตารางจ่ายเงินปันผล
    • วันหยุดกองทุน
    • ข่าว/บทวิเคราะห์
    • กลยุทธ์การลงทุน
    • กำหนดการและแบบฟอร์ม
    • โปรโมชั่น
    • ข้อมูลกองทุน
    • เปรียบเทียบกองทุน
    • KTAM Daily News
    • KTAM Edutainment
  • KTAM Smart Trade
  • PVD Online
  • Agent
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับ KTAM
  • กองทุนรวม
  • กองทุน RMF/LTF/SSF/ThaiESG
  • กองทุน FIF/ETF
  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
  • กองทุนส่วนบุคคล
  • กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน/รีทส์/อสังหาริมทรัพย์
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)
  • Menu แนะนำ
    • NAV
    • ค้นหากองทุน
    • กองทุนแนะนำ
    • กองทุนผลงานดี
    • ตารางจ่ายเงินปันผล
    • วันหยุดกองทุน
    • ข่าว/บทวิเคราะห์
    • กลยุทธ์การลงทุน
    • กำหนดการและแบบฟอร์ม
    • โปรโมชั่น
    • ข้อมูลกองทุน
    • เปรียบเทียบกองทุน
    • KTAM Daily News
    • KTAM Edutainment
  • KTAM Smart Trade
  • PVD Online
  • Agent
TH : EN
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับ KTAM
  • กองทุนรวม
  • กองทุน RMF/LTF/SSF/ThaiESG
  • กองทุน FIF/ETF
  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
  • กองทุนส่วนบุคคล
  • กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน/รีทส์/อสังหาริมทรัพย์
  1. หน้าแรก
  2. KTAM Edutainment
  3. ‘เวียดนาม’ กับโอกาสที่กำลังมา เมื่อจีนคลายล็อกดาวน์อีกครั้ง

‘เวียดนาม’ กับโอกาสที่กำลังมา เมื่อจีนคลายล็อกดาวน์อีกครั้ง

ใคร ๆ ก็บอกว่า ‘หุ้นเวียดนาม’ ในเวลานี้คือดาวเด่นของกลุ่มอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากจีนคลายล็อกดาวน์ด้วยแล้ว 
 

‘จีนเกี่ยวข้องกับเวียดนามอย่างไร’ ทำไมเมื่อจีนคลายล็อกดาวน์ เศรษฐกิจเวียดนามถึงเติบโตได้ ? 

ย้อนดู ‘ตัวเลขสถิติการส่งออก’ ของเวียดนามในปี 2563 ที่ผ่านมาจะพบว่า ‘จีน’ ยังคงเป็นผู้นําเข้าสินค้าเวียดนามรายใหญ่ รองจากสหรัฐอเมริกา หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ เวียดนามเป็นผู้ส่งออกสินค้าให้กับประเทศจีน 

ซึ่งหากดูตัวเลขจะพบว่า การส่งออกในปีที่ผ่านมามีมูลค่ามากถึง 48,905 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 18.0 

ในส่วนของ ‘ตัวเลขการนำเข้า’ ตลาดนําเข้าหลักของเวียดนามในปี 2563  ส่วนใหญ่นั้นมาจากประเทศจีน ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 84,186 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (ข้อมูลจาก : รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ สคต.ฮานอย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์)

และยังมีตัวเลขของ ‘กลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม’ ก่อนหน้าที่จะเกิดการระบาดของโควิด19 นั้น ประเทศเวียดนามได้ติด 6 ใน 10 อันดับของจุดหมายปลายทางที่มีการเติบโตของการท่องเที่ยวสูงที่สุดในโลก 

หากดูเจาะลึกลงไปอีกจะพบว่า ตัวเลขการท่องเที่ยวของเวียดนามในปี 2561 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ประมาณ 15.49 ล้านคน ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากทวีปเอเชียประมาณ 12 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 23.7 ของทั้งหมด และส่วนใหญ่มาจากประเทศจีนซึ่งอยู่ราว ๆ 4.9 ล้านคน (ข้อมูลจาก : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย ในปี 2562)

นอกจากนี้ ยังมีตัวเลขของนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2562 พบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั้นมาจากประเทศจีน ซึ่งมีตัวเลขที่โดดสูงกว่าประเทศอื่นอยู่ที่ราว ๆ 5.8 ล้านคน ส่วนประเทศที่รองลงมาก็คือประเทศเกาหลีใต้ อยู่ที่ประมาณ 4.3 ล้านคน  (ข้อมูลจาก : Vietnam tourism department)

ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ทำให้เห็นชัดแล้วว่า เวียดนามและจีน มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในเรื่องของการนำเข้า-ส่งออกสินค้า รวมไปถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอีกด้วย 

แต่เป็นที่น่าเสียดายที่โรคระบาดอย่างโควิด19 นั้นได้ส่งผลกระทบต่อจีนในเวลานี้ และทำให้จีนเลือกที่จะออกนโยบาย “Zero-COVID” หรือโควิดเป็นศูนย์ เพื่อรับมือกับสถานการณ์การระบาดของโรคที่รุนแรงขึ้น 

ซึ่งนั่นส่งผลให้จีนล็อกดาวน์ และทำการปิดประเทศอีกครั้ง เมื่อคนนอกเข้าไปไม่ได้ คนในก็ออกมาไม่ได้เช่นกัน จึงทำให้ตัวเลขทั้งภาคการท่องเที่ยว และภาคการนำเข้า-ส่งออกของประเทศเวียดนามได้ลดลงไปด้วย 

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันจีนได้มีการคลายล็อกดาวน์ในหลาย ๆ เมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนั่นก็หมายความว่า โอกาสที่เศรษฐกิจเวียดนามจะกลับมาเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดนั้นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเลยก็ว่าได้ 


ถึงแม้ก่อนหน้านี้เวียดนามจะได้รับผลกระทบจากจีนเป็นอย่างมาก แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความน่าสนใจของประเทศเวียดนามลดน้อยลงเลย เพราะหุ้นของกลุ่มประเทศเวียดนาม ก็ยังคงสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างดี จากปัจจัยในด้านอื่น ๆ  ไม่ว่าจะเป็น 

ความได้เปรียบทางโครงสร้างประชากร

ข้อมูลล่าสุดจาก worldbank ระบุไว้ว่า ในปี 2563 จำนวนประชากรของเวียดนาม มีอยู่ทั้งสิ้น 97.38 ล้านคน โดยส่วนมากจะอยู่ในช่วงอายุ 25-35 ปี ซึ่งนับว่าเป็นช่วงอายุที่มีความสามารถ มีทักษะฝีมือ และมีกำลังในการทำงาน ส่งผลให้เวียดนามมีแรงงานคุณภาพที่ค่อนข้างเยอะ 

อีกหนึ่งความได้เปรียบคือ คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัว (GDP Per Capita) เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชากรมีกำลังในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งจุดนี้เองที่จะเป็นตัวช่วยผลักดันเศรษฐกิจเวียดนามได้เป็นอย่างดี และสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติได้มากขึ้น
(ข้อมูลจาก : สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) หรือสพพ.)

มาตรการการปราบปรามที่เข้มงวดขึ้น 

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565 ข้อมูลจากสำนักข่าว Reuters ได้เผยว่า ตำรวจเวียดนามได้มีการเข้าจับกุมบริษัท และนักธุรกิจหลายรายที่กระทำความผิด ภายใต้ข้อกล่าวหาการฉ้อโกง การยักยอกตลาด และการยักยอกทรัพย์ ซึ่งรวมทั้งสิ้นได้มีการกวาดล้างหุ้นเวียดนามมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

เหตุการณ์ในครั้งนี้ ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความรู้สึกสั่นคลอนต่อความเชื่อมั่นในระยะสั้น แต่หากมองในระยะยาวแล้วนั้น การที่เวียดนามได้มีการยกระดับมาตรการการปราบปรามที่เข้มงวดนี้ จะทำให้ตลาดมีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

อนาคตเวียดนามอาจเป็นฐานการผลิตรายใหญ่แห่งใหม่ในอาเซียน

ที่ผ่านมาหลายคนอาจรู้จักจีนในฐานะโรงงานการผลิตขนาดใหญ่ และมีแรงงานที่มีราคาค่อนข้างต่ำ แต่ล่าสุด จากเหตุการณ์ที่จีนได้มีการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ ฐานการผลิตบริษัทแห่งใหญ่อย่าง Apple ผู้ผลิต iPad และ AirPods ที่ก่อนหน้านี้ได้ก่อตั้งอยู่ที่ประเทศจีน ปัจจุบันก็ได้ตัดสินใจย้ายฐานการผลิตมาไว้ที่เวียดนามเป็นที่เรียบร้อย และในส่วนของ iPad น่าจะพร้อมเริ่มการผลิตในเร็ว ๆ นี้  (ข้อมูลจาก : สำนักข่าว Nikkei Asia เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565)

การย้ายฐานการผลิตในครั้งนี้ ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจของเวียดนามที่ดีขึ้น ซึ่งในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple ที่เข้ามาสร้างฐานการผลิตที่เวียดนามเท่านั้น แต่ยังมีแบรนด์ดังหลายแบรนด์ อย่าง Samsung, LEGO, Pandora, Nike และ Coca-Cola ซึ่งกลุ่มบริษัทเหล่านี้ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับหลายประเทศอีกด้วย

จากทั้งหมดที่กล่าวมา เรียกได้ว่า ‘เวียดนาม’ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความน่าสนใจในหลายแง่มุม 


อย่างไรก็ตาม จีน ยังถือเป็น ประเทศหลัก ๆ ที่สำคัญกับเวียดนาม หากจีนเปิดประเทศอีกครั้ง ก็จะทำให้ตัวเลขการนำเข้า-ส่งออก รวมถึงการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้เศรษฐกิจเวียดนามฟื้นตัวได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย 

จากตรงนี้ KTAM มองเห็นถึงโอกาสการลงทุนในประเทศเวียดนาม จึงได้ออกกองทุนที่มีชื่อว่า KT-VIETNAM นี้ออกมา ทั้งชนิดสะสมทรัพย์ และชนิด SSF สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งทั้ง 2 กองทุนนี้มีนโยบายลงทุนในบริษัทเวียดนาม และ/หรือ บริษัทที่มีธุรกิจหลักหรือมีรายได้หลักจากเวียดนาม และ/หรือ บริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเวียดนาม โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
  • กองทุนนี้จะเน้นการลงทุนแบบเชิงรุก สร้างผลตอบแทนเหนือตลาด 
  • ใช้ธีมการลงทุนที่ผสมผสานทั้งรูปแบบ Top-down และ Bottom-up 
  • คัดเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความมั่นคง และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะปานกลาง และระยะยาว

หากใครที่สนใจลงทุนกับกลุ่มประเทศเวียดนาม ผ่านกองทุน KT-VIETNAM-A สามารถศึกษาข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ http://bitly.ws/swFD และ KT-VIETNAM-SSF ได้ที่ http://bitly.ws/swFH 

KTAM Smart Trade เปิดบัญชีกองทุนออนไลน์ได้แล้ววันนี้ ง่าย สะดวก ปลอดภัย รวดเร็ว คลิก
iOS : https://bit.ly/KTAMST 
Android : https://bit.ly/KTST_Android

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ธนาคารกรุงไทย ผู้สนับสนุนการขาย หรือ บลจ.กรุงไทย โทร 02-686-6100 กด 9

 

คำเตือน: 

กองทุนนี้มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน/ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุน หรืออาจจะได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนเพื่อการออม และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ หากลงทุนไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด อาจจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเสียเงินเพิ่ม
 

References:
- รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ Form ditp.go.th
- สถานการณ์ธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการในเวียดนาม Form ditp.go.th 
- https://www.ditp.go.th/ditp_web61/article_sub_view.php?filename=contents_attach/760689/760689.pdf&title=760689&cate=413&d=0
- https://data.worldbank.org/indicator/SP.POP.TOTL?locations=VN
- Socialist Republic of Viet Nam Form neda.or.th
- https://www.nasdaq.com/articles/vietnam-arrests-securities-firms-ceo-as-it-steps-up-graft-crackdown
- https://www.reuters.com/article/vietnam-security-markets-idAFL3N2WP3M0
- https://www.businessinsider.com/apple-moving-some-ipad-production-from-china-vietnam-report-2022-6

แชร์เรื่องนี้

  • Facebook
  • Twitter
  • Line

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

News Demo
09
พฤษภาคม
2568
“India Rising” มหาอำนาจเศรษฐกิจใหม่ของโลก
อ่านต่อ
News Demo
25
เมษายน
2568
รู้จักกับ 8 ธีมการลงทุนใน REITs ต่างประเทศ
อ่านต่อ
News Demo
18
เมษายน
2568
เลือกกองทุนตราสารหนี้ให้ตรงใจ…แค่ “ปลอดภัย” อย่างเดียวไม่พอ!
อ่านต่อ

Shortcut Menu

  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับ KTAM
  • กองทุนรวม
  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
  • กองทุนส่วนบุคคล
  • กองทุนอสังหาริมทรัพย์/
    โครงสร้างพื้นฐาน
  • กองทุน RMF/LTF/SSF/ThaiESG
  • กองทุน FIF/ETF
  • กองทุนผลงานดี
  • ตารางจ่ายเงินปันผล
  • ข่าว/บทวิเคราะห์
  • กลยุทธ์การลงทุน
  • กำหนดการและแบบฟอร์ม
  • โปรโมชั่น
  • ปฏิทินกองทุน
  • ภาพกิจกรรม
  • ประกาศราคากลาง
  • AIMC Category
    Performance Report
  • ถาม-ตอบ
  • ความรู้เกี่ยวกับการลงทุน
  • ประกาศความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้
  • การตั้งค่าคุกกี้
  • สมัครรับข่าวสาร
  • ติดต่อเรา
  • ร่วมงานกับเรา
  • ประกาศความเป็นส่วนตัว
Go To Top
Stay Connect with us:
  • Facebook
  • Twitter
  • Youtube

สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2559, บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)

KTAM Smart Plan: 0-2686-6100 กด 9 โทรสาร 0-2670-0430 ต่างจังหวัดโทรฟรี 1-800-295-592

อีเมล: callcenter@ktam.co.th

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0-1075-45000-37-3 : สำนักงานใหญ่

  • พันธมิตรธุรกิจ
  • เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
  • แผนผังเว็บไซต์

การใช้และการจัดการคุกกี้

เว็บไซต์ของบริษัทฯ มีการใช้งานคุกกี้ (cookies) เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ คุณสามารถตั้งค่าและศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับ การใช้คุกกี้ของบริษัทฯ ได้ที่ ประกาศความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้ และ การตั้งค่าคุกกี้

 การใช้และการจัดการคุกกี้

เมื่อท่านเข้าใช้เว็บไซต์ของเรา เราใช้คุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของเราจะ ทำงานได้อย่างถูกต้อง และเรายังใช้คุกกี้ประเภทอื่นๆ เพื่อรวบรวมพฤติกรรมการใช้ งานเว็บไซต์ของเราและนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในการปรับปรุงเพื่อสร้างประสบการณ์ การใช้งานเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ท่านสามารถเลือกตั้งค่าการใช้งานคุกกี้ บางประเภทได้ตลอดเวลา และบริษัทจะไม่ใช้คุกกี้ที่ท่านเลือกปิดการใช้งาน

ท่านสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของเราที่ ประกาศความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้


การกำหนดลักษณะความยินยอม

คุกกี้ที่จำเป็น

คุกกี้เหล่านี้ที่จำเป็นในการเปิดใช้คุณลักษณะการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์ เช่น การรักษาความปลอดภัย การบริหารจัดการเครือข่าย และการเข้าสู่ระบบ

คุกกี้วิเคราะห์

เราใช้คุกกี้ Google Analytics เพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์โดยรวบรวมและรายงานข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ คุกกี้ดังกล่าวจะเก็บข้อมูลที่ไม่ระบุตัวบุคคลโดยตรง