• X
  • ค้นหา
  • TH EN
  • Menu แนะนำ
    • NAV
    • ค้นหากองทุน
    • กองทุนแนะนำ
    • กองทุนผลงานดี
    • ตารางจ่ายเงินปันผล
    • วันหยุดกองทุน
    • ข่าว/บทวิเคราะห์
    • กลยุทธ์การลงทุน
    • กำหนดการและแบบฟอร์ม
    • โปรโมชั่น
    • ข้อมูลกองทุน
    • เปรียบเทียบกองทุน
    • KTAM Daily News
    • KTAM Edutainment
  • KTAM Smart Trade
  • PVD Online
  • Agent
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับ KTAM
  • กองทุนรวม
  • กองทุน RMF/LTF/SSF/ThaiESG
  • กองทุน FIF/ETF
  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
  • กองทุนส่วนบุคคล
  • กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน/รีทส์/อสังหาริมทรัพย์
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)
  • Menu แนะนำ
    • NAV
    • ค้นหากองทุน
    • กองทุนแนะนำ
    • กองทุนผลงานดี
    • ตารางจ่ายเงินปันผล
    • วันหยุดกองทุน
    • ข่าว/บทวิเคราะห์
    • กลยุทธ์การลงทุน
    • กำหนดการและแบบฟอร์ม
    • โปรโมชั่น
    • ข้อมูลกองทุน
    • เปรียบเทียบกองทุน
    • KTAM Daily News
    • KTAM Edutainment
  • KTAM Smart Trade
  • PVD Online
  • Agent
TH : EN
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับ KTAM
  • กองทุนรวม
  • กองทุน RMF/LTF/SSF/ThaiESG
  • กองทุน FIF/ETF
  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
  • กองทุนส่วนบุคคล
  • กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน/รีทส์/อสังหาริมทรัพย์
  1. หน้าแรก
  2. KTAM Edutainment
  3. โอกาสลงทุนหุ้น Healthcare เติบโตไปกับธุรกิจสุขภาพระดับโลก

โอกาสลงทุนหุ้น Healthcare เติบโตไปกับธุรกิจสุขภาพระดับโลก

“โอกาสลงทุนหุ้น Healthcare เติบโตไปกับธุรกิจสุขภาพระดับโลก"




องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยจำนวนคนเกษียณทั่วโลกจะพุ่งสูงถึง 2 พันล้านคน ในปี 2050 และจำนวน 2 ใน 3 ของประชากรที่อายุเกิน 60 ปี อยู่ในกลุ่มประเทศรายได้ต่ำและประเทศรายได้ปานกลาง ทำให้ประเทศเหล่านี้ต้องปรับตัวให้ทันก่อนสภาพสังคมที่จะเปลี่ยนแปลงไป

พอสัดส่วนประชากรในสังคมเปลี่ยน การดำเนินชีวิตและคุณภาพสังคมก็เปลี่ยนไป ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลก แล้วโอกาสในการลงทุนจะเป็นอย่างไรต่อไป?

วันนี้ KTAM จึงมาบอกโอกาสลงทุนในกลุ่ม Healthcare ที่มีเทรนด์สนับสนุนอย่างมากในปัจจุบัน

กลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพกำลังมาแรง และ ได้รับกระแสตอบรับจากประชากรในสังคมมากมายด้วยเทรนด์ต่าง ๆ ดังนี้
 

3 เทรนด์ใหญ่ที่กำลังเปลี่ยนแปลงวงการ Healthcare

  1. สังคมผู้สูงอายุทั่วโลก (Aging Society) & ความต้องการบริการทางการแพทย์
    จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่เผยในปี 2050 จะมีประชากรโลกที่อายุ 60 ปีขึ้นไปสูงขึ้นถึง 2.1 พันล้านคน เมื่อประชากรสูงวัยเพิ่มมากขึ้น จึงมีความต้องการบริการทางการแพทย์ที่สูงขึ้นด้วย
  2. เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวล้ำ
    การพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ (Artificial Intelligence – AI) และ การแพทย์ทางไกล เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรักษาให้กับผู้ป่วย
  3. การให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น (Health Awareness)
    การที่ประชากรหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพของตนเองมากยิ่งขึ้น จึงมีการใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพเพื่อเป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพ

เมื่อเราได้รู้จักเทรนด์ที่สนับสนุนแล้วก็ต้องหาโอกาสในการลงทุนต่อไปโดย โอกาสลงทุนใน 5 กลุ่มธุรกิจ Healthcare มีดังนี้

  1. โรงพยาบาลและสถานพยาบาล
    เมื่อประชากรสูงวัยเพิ่มมากขึ้น ความต้องการในการรักษาพยาบาลยิ่งสูงขึ้นตาม จึงต้องเข้าใช้บริการโรงพยาบาลมากยิ่งขึ้น
  2. บริษัทยาและเวชภัณฑ์
    บริษัทยาขนาดใหญ่ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย และมีท่อส่งยา (pipeline) ที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงการคิดค้นพัฒนาวัคซีนป้องกันโรค
  3. บริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์
    บริษัทที่ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องมือผ่าตัด เครื่องมือตรวจวินิจฉัย
  4. บริษัทประกัน
    บริษัทประกันสุขภาพที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ และมีความสามารถในการบริหารจัดการความเสี่ยง
  5. บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ 
    บริษัทที่พัฒนานวัตกรรมทางชีวภาพใหม่ ๆ
(อ้างอิง Future Trends, กรุงเทพธุรกิจ สืบค้นข้อมูล ณ วันที่ 24 ต.ค. 2567)

จากเหตุผลเบื้องต้น KTAM จึงขอแนะนำกองทุนรวมที่ลงทุนในกลุ่ม Healthcare ตอบรับเทรนด์สังคมเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน
 

KT-Healthcare ระดับความเสี่ยง 7

เน้นลงทุนใน Janus Henderson Global Life Sciences Fund (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์การดำเนินชีวิต ซึ่งเกี่ยวกับการรักษาหรือการพัฒนาคุณภาพชีวิต สำหรับกองทุนรวม KT-Healthcare มีทั้งชนิดสะสมมูลค่า (A), ชนิดเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
 
เหมาะกับใคร : ผู้ที่สามารถรับความผันผวนได้และต้องการโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในกลุ่มธุรกิจด้านสุขภาพและการแพทย์
 
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://qrcd.org/79IR
 
จุดเด่น การลงทุนในกองทุนรวม KT-Healthcare
 
กองทุนหลักเน้นสร้างผลตอบแทนจากการเติบโตของมูลค่าเงินลงทุนในระยะยาว ผ่านการลงทุนในบริษัททั่วโลกที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต (Life Sciences) เกี่ยวข้องกับการรักษาหรือการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยจะกระจายการลงทุนใน 3 อุตสาหกรรม อุตสาหกรรมละประมาณ 1 ใน 3 ของพอร์ตการลงทุน ได้แก่ (1) Pharmaceuticals (2) Biotechnology และ (3) Devices & Medical Tech และ Health Care Services ถือว่าแตกต่างจากดัชนีอ้างอิง ที่มีดัชนีหุ้นกลุ่มการแพทย์ทั่วโลก และมีสัดส่วนการลงทุนในกลุ่ม Biotechnology แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
 
กลยุทธ์การลงทุนของทางกองทุนรวมหลัก
1. ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Barbell Approach (หลักการแบ่งลงทุนในสินทรัพย์ออกเป็น 2 ส่วนที่แตกต่างกัน)
กองทุนมีการปรับสมดุลพอร์ตทั้งในหุ้นกลุ่มที่มีคุณภาพสูง (Defensive) เช่น หุ้นกลุ่ม Biopharma และหุ้นกลุ่ม Managed Care ขนาดใหญ่ และหุ้นกลุ่มที่มีโอกาสในการเติบโตสูง (Growth) เช่น หุ้นกลุ่ม Biotech ขนาดกลางและขนาดเล็ก
2. เน้นน้ำหนักการลงทุนในกลุ่ม Biotech มากกว่าดัชนีอ้างอิง
กระจายการลงทุนใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรม ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ได้แก่ (1) กลุ่ม Pharmaceuticals (2) กลุ่ม Biotechnology และ (3) กลุ่ม Devices & Medical Tech และกลุ่ม Health Care Services แตกต่างจากดัชนีอ้างอิงที่เป็น ดัชนีหุ้นกลุ่มการแพทย์ทั่วโลก มีสัดส่วนการลงทุนในกลุ่ม Biotechnology เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
 
ข้อดีของการลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนใน Healthcare
1. ศักยภาพในการเติบโตระยะยาว : หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมทางการแพทย์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมชั้นนำที่อยู่ใน Mega Trend ระดับโลก มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่องในอนาคต
2. แนวโน้มที่จะเติบโตได้ดีในอนาคตตามการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของประชากร :
การเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุ ซึ่งจะทำให้ความต้องการทางการแพทย์ต่างๆ เพิ่มสูงขึ้นอีกตามไปด้วยนอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันก็มีโรคใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย
3. มีการกระจายความเสี่ยง : กองทุนมีการกระจายลงทุนใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่เพียงแต่กลุ่มบริการทางการแพทย์ ยังเน้นลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพและอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย ช่วยลดความผันผวนจากการลงทุน
4. มีมืออาชีพคอยบริหารจัดการ : มีผู้จัดการกองทุนคอยวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจ และ จับจังหวะการลงทุนทำให้การลงทุนมีประสิทธิภาพ

ที่มา : KTAM และ Janus Henderson (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน ส.ค. 67)
หมายเหตุ : กลยุทธ์การลงทุนนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุนหลักและตามภาวะอุตสาหกรรม
 
สรุปแล้ว
การลงทุนในกลุ่ม Healthcare เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว จากปัจจัยที่สำคัญต่าง ๆ เช่น การเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุ การพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ และความต้องการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ทำให้การลงทุนในกลุ่ม Healthcare มีความน่าสนใจ
 
คำเตือน : กองทุนมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกปลี่ยนโดยดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุนรวมเพื่อการออม กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ หากลงทุนไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด อาจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเสียเงินเพิ่ม
 
ลงทุนเลยผ่านแอป KTAM Smart Trade
ลงทุนง่าย สะดวก ปลอดภัย ดาวน์โหลด : https://onelink.to/9a76pb
สอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนที่ ธนาคารกรุงไทย
ผู้สนับสนุนการขาย หรือ บลจ.กรุงไทย
โทร. 02-686-6100 กด 9


 

 

 

แชร์เรื่องนี้

  • Facebook
  • Twitter
  • Line

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

News Demo
09
พฤษภาคม
2568
“India Rising” มหาอำนาจเศรษฐกิจใหม่ของโลก
อ่านต่อ
News Demo
25
เมษายน
2568
รู้จักกับ 8 ธีมการลงทุนใน REITs ต่างประเทศ
อ่านต่อ
News Demo
18
เมษายน
2568
เลือกกองทุนตราสารหนี้ให้ตรงใจ…แค่ “ปลอดภัย” อย่างเดียวไม่พอ!
อ่านต่อ

Shortcut Menu

  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับ KTAM
  • กองทุนรวม
  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
  • กองทุนส่วนบุคคล
  • กองทุนอสังหาริมทรัพย์/
    โครงสร้างพื้นฐาน
  • กองทุน RMF/LTF/SSF/ThaiESG
  • กองทุน FIF/ETF
  • กองทุนผลงานดี
  • ตารางจ่ายเงินปันผล
  • ข่าว/บทวิเคราะห์
  • กลยุทธ์การลงทุน
  • กำหนดการและแบบฟอร์ม
  • โปรโมชั่น
  • ปฏิทินกองทุน
  • ภาพกิจกรรม
  • ประกาศราคากลาง
  • AIMC Category
    Performance Report
  • ถาม-ตอบ
  • ความรู้เกี่ยวกับการลงทุน
  • ประกาศความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้
  • การตั้งค่าคุกกี้
  • สมัครรับข่าวสาร
  • ติดต่อเรา
  • ร่วมงานกับเรา
  • ประกาศความเป็นส่วนตัว
Go To Top
Stay Connect with us:
  • Facebook
  • Twitter
  • Youtube

สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2559, บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)

KTAM Smart Plan: 0-2686-6100 กด 9 โทรสาร 0-2670-0430 ต่างจังหวัดโทรฟรี 1-800-295-592

อีเมล: callcenter@ktam.co.th

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0-1075-45000-37-3 : สำนักงานใหญ่

  • พันธมิตรธุรกิจ
  • เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
  • แผนผังเว็บไซต์

การใช้และการจัดการคุกกี้

เว็บไซต์ของบริษัทฯ มีการใช้งานคุกกี้ (cookies) เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ คุณสามารถตั้งค่าและศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับ การใช้คุกกี้ของบริษัทฯ ได้ที่ ประกาศความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้ และ การตั้งค่าคุกกี้

 การใช้และการจัดการคุกกี้

เมื่อท่านเข้าใช้เว็บไซต์ของเรา เราใช้คุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของเราจะ ทำงานได้อย่างถูกต้อง และเรายังใช้คุกกี้ประเภทอื่นๆ เพื่อรวบรวมพฤติกรรมการใช้ งานเว็บไซต์ของเราและนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในการปรับปรุงเพื่อสร้างประสบการณ์ การใช้งานเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ท่านสามารถเลือกตั้งค่าการใช้งานคุกกี้ บางประเภทได้ตลอดเวลา และบริษัทจะไม่ใช้คุกกี้ที่ท่านเลือกปิดการใช้งาน

ท่านสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของเราที่ ประกาศความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้


การกำหนดลักษณะความยินยอม

คุกกี้ที่จำเป็น

คุกกี้เหล่านี้ที่จำเป็นในการเปิดใช้คุณลักษณะการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์ เช่น การรักษาความปลอดภัย การบริหารจัดการเครือข่าย และการเข้าสู่ระบบ

คุกกี้วิเคราะห์

เราใช้คุกกี้ Google Analytics เพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์โดยรวบรวมและรายงานข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ คุกกี้ดังกล่าวจะเก็บข้อมูลที่ไม่ระบุตัวบุคคลโดยตรง